.

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

Review : รีวิว ZTE Axon 7 ที่สุดของตัวท็อปที่คุ้มกับราคา 15,990 มากๆ มีตังค์ซื้อนี่พูดเลย


กราบบสวัสดีเหล่าแม่ยกที่น่ารักทั้งหลาย วันนี้เจอกันอีกแล้วกับรีวิวที่จะหาว่าอวยก็ได้นะ เพราะมือถือที่
จะรีวิววันนี้ บอกได้เลยว่า "ที่สุด" แล้วของ ZTE ณ เพลานี้ โปรดท่านพี่ได้เข้าใจว่าความรู้สึกดีที่มีให้ "ZTE Axon 7"  นั้นมากมายคณานับเหลือเกิน ถ้ามีตังค์ งบถึง อยากจะแนะนำให้ลองไปเล่นดูครับ รับรอง มีเสียตัง



Full Specs
Display : 5.5 Inch. Amoled 2K Quad HD (1440x2560) 538ppi
กระจก Glorilla Glass4  2.5D
CPU : Qualcomm MSM8996 Snapdragon 820 2.15Ghz
GPU : Adreno 530
ROM and Ram : 64 GB, 4 GB RAM LPDDR4
Camera : กล้องหลัง 20 MP, f/1.8, phase detection autofocus, OIS, dual-LED (dual tone) flash VDO 2160p@30fps, 1080p@30/60fps, 720p@240fps / กล้องหน้า 8 MP, f/2.2, 1080p
Sound : - 32-bit/192kHz audio , Dolby Atmos , Active noise cancellation with dedicated mic
Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac, dual-band
A-GPS, GLONASS/ BDS
NFC
USB 3.0, Type-C 
Fast battery charging: 83% in 30 min (Quick Charge 3.0)
Li-Ion 3250 mAh battery
ชิปเสียง AKM4961 + AKM4490 มี DAC ในตัว พร้อมซอฟแวร์อย่าง Dolby Atmos
ราคาเปิดตัว 15,990.-

 





- แกะกล่อง

มาเริ่มที่กล่องกันก่อนนะครับ กล่องเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสสีดำด้าน มีโลโก้ AXON7 ตัวเป้ง และ ZTE ตัวเล็กๆไว้ด้านล่าง


ถ้าเทียบกับ AXON ตัวเก่า กล่องหรูกว่าเย๊อะ

อีกสักมุม แหม๋ กล่องมันสวยจริงๆ


ความหนาพอประมาณ เล่นขอบทองด้านข้างตัดกับสีดำ หรูมาก!!


เปิดแงะฝาดูภายในบ้าง


จะเจอกับตัวเครื่องนอนแอ้งแม้งอยู่ มีที่ดึงตัวเครื่องออกเพื่อจะผ่านไปด่านต่อไป ป๊ะ! ไม่ธรรมดา


ลองดึงมาดูซิ เผื่อเจอของดี ฮี่ๆ


แต้นแต่นนน อัดแน่นมาเพียบ!


เดี๋ยวมาลองไล่ดูกันเป็นอย่างๆ


อย่างแรกคู่มือและบัตรรับประกัน อยู่ในซองสีดำด้าน


แนะนำให้อ่านกันด้วยนะ ต้มกินได้ยิ่งดี (แอ่แห๊ะ!)


ถัดมาก็เป็นหูฟังโคตรๆๆๆของโคตรๆเพราะ ใส่แล้วไม่เจ็บหูเลย ดูหรูอีก ชอบครับ


ถัดมาก็สายชาร์จ ซึ่งสายชาร์จเส้นนี้ รองรับ Quick charge 3.0 ดังนั้นคุณภาพดีแน่นอนครับ


หัวชาร์จจะมาแนวๆนี้ รองรับ  Quick charge 3.0 ไปในตัว


ด้านบนเรียบๆ มีสกีน  Quick charge 3.0 ไว้ตรงด้านขวามือ




ขาปลั๊กเป็นแบบหัวกลม บ้านเราจะเป็นหัวแบนกันเยอะ แต่ก็เสียบได้ไม่มีปัญหาอะไร

อันนี้แหละทีเด็ดเลย


ตอนแรกนึกว่ามีแค่เคสธรรมดา แหม๋ มีซ่อนของไว้ด้วย


สองอันนี้แหละครับ ทีเด็ดเลย


อันแรกจะเป็นเข็มจิ้มซิม ซึ่งเราสามารถเอาไปห้อยกับเคสมือถือ ห้อยกับพวงกุญแจ ห้อยคอหรืออะไรก็ตามสะดวก เวลาจะใช้ก็พับมันให้หัวแหลมๆออกมาเป็นใช้ได้


อันต่อมาเป็นหัวแปลง USB Type B เป็น USB Type C ไม่ต้องซื้อเพิ่ม ดีงาม


ฝั่งตัวเมียจะเป็น Micro USB เสียบเข้าไป


ออกมาก็จะกลายเป็น Type C เสียบเข้ากับ ZTE Axon 7


ชิ้นสุดท้ายก็เคสใส ใส่แล้วหล่อเหลาเอาการประหนึ่งมาริโอ้กันเลยทีเดียว

ทดสอบการชาร์จ ด้วยเทคโนโลยี  Quick charge 3.0



วิธีการทดสอบ จะเริ่มชาร์จตั้งแต่ 0% และจับเวลาเป็นช่วงๆ คือ 10 นาที , 30 นาที , 60 นาที และ ชาร์จเต็ม 100% โดยใช้หัวชาร์จและสายชาร์จเดิมจากโรงงานเพื่อความเป็นมาตรฐานเดียวกัน



Quick charge 3.0 ในระยะเวลา 10 นาที สามารถชาร์จไปได้ประมาณ 18%

Quick charge 3.0 ในระยะเวลา 30 นาที สามารถชาร์จไปได้ประมาณ 54%


Quick charge 3.0 ในระยะเวลา 60 นาที สามารถชาร์จไปได้ประมาณ 87%


Quick charge 3.0 ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง 18 นาที สามารถชาร์จไปได้ประมาณ 100% 

- วัสดุรอบตัวเครื่อง



รอบนี้ ZTE ทำการบ้านมาดีมาก เพราะ Axon ตัวเก่าดีไซน์ เอ่อ ... ครั้งนี้จะพลาดอีกไม่ได้ จัดการดีไซน์ใหม่จากทีมดีไซน์ค่ายรถดังฝั่งยุโรป " BMW " มาช่วยกันออกแบบให้มันดูว้าวกว่าเดิม


ตัวเครื่องจัดถนัดมือกว่า Axon ตัวเก่าแบบรู้สึกได้ ลดความยาวจากตัวเดิมมาหน่อยนึง


ด้านหน้าเป็นระบบเสียงเซอร์ราวด์ โดยใช้ชิปเสียงและซอฟแวร์ช่วยกันทำงาน ความดังและมิติเสียงดีโคตรๆ


การันตีจากรางวัล นวัตกรรมด้านเสียงในสมาร์ทโฟน ที่งาน IFA 2016 ด้วยนะเออ ไม่ธรรมดาจริงๆ




กล้องหลังความละเอียด 20MP พิกเซล นูนออกมานิี๊ดเดียว ใส่เคสปิดมิดชิด


ด้านล่างเรียบๆ สกีนโลโก้ ZTE และ ระแบบเสียง Dolby ATMOS


มีการใช้ขีดเส่นเสาสัญญาณมาช่วยในเรื่องของดีไซน์ให้มันดูโดดเด่นขึ้นกว่าเดิม งานนี้ไม่หมูจริงๆ


ชอบตรงร่องแสกนลายนิ้วมือมาก ได้อารมณ์สุดๆ


ขอด้านข้างกลาอๆอีกมุมนึง แหม๋ สวยจริงๆ


ถาดซิมเรียบเสมอหูกันเลยทีเดียว


ปุ่มเพิ่มลดเสียงเปลี่ยนจาก Axon ตัวเก่าที่เป็นปุ่มขรุขระ มาเป็นแบบเรียบๆให้มันเข้ากับ Body มากขึ้น


พาแนลจอดำปึ๊ดๆ ขอบจอบางมาก


จอความละเอียด 2K แบบ AMOLED ครอบทับด้วย กอลิลากลาส 4 แบบ 2.5D อีกทีนึง


ปุ่มซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ ZTE ใช้งานและตั้งค่าง่าย ด้านล่างก็จะเป็นไมค์ตัดเสียงและ USB Type C


ขออีกมุม หล่อจริง


ด้านบนจะเป็นช่องเสียบแจ็คขนาด 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาก็เป็นไมค์ตัดเสียงรบกวน

- หน้าจอและโฮมสกรีน

หน้าจอความละเอียด 2K (เพิ่มขึ้นจาก ZTE AXON ตัวเดิมที่เป็นจอความละเอียด Full HD ) แบบ 2.5D ฟิลลิ้งการทัชลื่นปี๊ด ความสว่างนี่ใช้กลางแดดสบายๆครับ



หน้า UI นี่ยกเครื่องใหม่หมดเลย ดูแล้วเข้ากับตัว Body ไม่แปลกแยกแตกต่างกันเกินไป ไปในแนวทางเดียวกัน หน้าตั้งค่ามีการจัดหมวกหมู่ให้ดีกว่าเดิม ง่ายต่อการเข้าถึง (อาจจะต้องปรับตัวสักนิด)


หน้าจอสามารถที่จะเข้าไปตั้งค่าได้ว่าจะเอาโหมดไหนอะไรยังไง
โดยซอฟแวร์จะคล้ายๆกับ ZTE Grand S2 ซึ่งถือว่าดีมาก มีทั้งโหมดรูปภาพ 
โหมดภาพยนต์ และอีกเยอะแยะตาแปะขายไข่ (ติตรงยังเป็นภาษาจีนอยู่เนี่ยแหละ )
คะแนน : 9/10 (หักลบไปในส่วนของภาษา คาดว่าจะได้รับการอัพเดทจ้า)



-ฟังก์ชั่นแสกนลายนิ้วมือ


สำหรับแสกนลายนิ้วมือ เซ็นเซอร์จะทำงานอยู่ตลอดเวลา นั่นหมายความว่า เราสามารถเอานิ้วไปแตะได้เลยโดยไม่ต้องปลุกเครื่องจากโหมดสลีปหรือขณะปิดหน้าจอ (บางรุ่นต้องกดปุ่มโฮมก่อน เพื่อปลุกให้ตื่นจากโหมด Sleep เพื่อปลดล็อค)

สำหรับความไวและความแม่นยำ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ เมื่อเทียบกับ Axon ตัวเก่าจากความรู้สึกแล้ว ไวและแม่นกว่าประมาณ 2 เท่าเลยทีเดียว ถือว่าทำการบ้านออกมาได้ดีเกินคาดครับ (วัดจากความรู้สึก)
คะแนน : 10/10 

# มัลติมีเดียร์ ดูหนังฟังเพลง



     เริ่มกันที่มัลติมีเดียร์ก่อน ดูหนังนี่เหมาะมาก หนึ่งเลยคือจอความละเอียดสูง 2K พาแนลจอเป็น AMOLED อีก เรื่องสีเรื่องความสว่าง หายกังวลไปได้เลย สองคือมีซอฟแวร์ที่ใช้ของตัว ZTE Grand S2 มา มันดียังไง ? มันสามารถที่จะปรับรูปแบบของหน้าจอได้ถึง 9 รูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานเรามากที่สุด มีทั้งดูหนัง สบายตา หรือแม้กระทั่งดูรูปภาพก็ตามที  ดังนั้นเรื่องดูหนัง ให้ผ่านเลยครับ



     ต่อมาคือเรื่องของการฟังเพลง ต้องบอกก่อนเลยว่าซอฟแวร์กับฮาร์ดแวร์ที่ยัดมาไม่ใช่ไก่กาอาราเล่ สุดจริงๆ ขึ้นชื่อว่าตัวท็อป ยังไงก็ต้องสุด



โดยการฟังเพลง จะมีฮาร์ดแวร์อย่างชิปเสียง  AKM4961 + AKM4490 มี DAC ในตัว พร้อมซอฟแวร์อย่าง Dolby Atmos มาช่วยขับลำโพง Surround อีกทีนึง ระดับความดังนี่กระหึ่มเลยครับ



สรุปสั้นๆให้ได้ใจความ


-ฟังเพลงเทพ ลำโพงดีโคตรๆ ระบบเสียงSurround ประหนึ่งวิ่งอยู่ท่ามกลางวงออเกรสต้า

-ดูหนังฟิน จอ AMOLED ความละเอียด 2K สบายๆ
-มีโหมดปรับจอได้หลากหลาย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
คะแนน 15/10 (อ่าวเกิน ฮ่าๆ)

-กล้องและการถ่ายภาพ




- กล้องหน้า ความละเอียด 8 MP, รูรับแสง f/2.2 ,สามารถถ่าย VDO ได้สูงสุดที่ความละเอียด 1080p 30fps


ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า



เปิดด้วยรูปเจ้แพมละกัน เอาฤกษ์เอาชัย


กล้องหน้าโหมดธรรมดา มีการเกลี่ยผิวมาให้เล็กน้อย กำลังดี ดูไม่หลอกตา สีจะออกแนวตุ่นๆนิดนึง ความชมชัดดูได้จากเส้นผมเลยครับ เห็นแล้วร้องอื้อหือเลย


โหมดธรรมดาในที่แสงน้อยมากๆ  เกลี่ย Noise ได้ดีแม้จะแลกมากับความคมชัด ก็ถือว่ายอมรับได้ครับ (มือต้องนิ่งนิดนึง)


โหมดบิวตี้ เป็นแบบสำเร็จรูป ดึงแยกเป็นปรับตา ปรับจมูกไม่ได้นะ แล้วแต่คนชอบละกัน
จากการใช้งานแล้ว รู้สึกดีครับ ในรูปปรับแค่ระดับ 2 หน้าก็เนียนกริ้งยังกะมาริโอ้ละ (อิอิ) ยิ่งปรับเยอะ รายละเอียดของภาพยิ่งน้อยตาม


โหมดบิ้วตี้ระดับ 2 ในที่แสงน้อย ถือว่ากำลังดีไม่เกลี่ยจนรายละเอียดฉากหลังหายไป 
ถือว่าซอฟแวร์ฉลาดมากครับ

สรุปสั้นๆ 


-กล้องหน้าโหมดบิวตี้ไม่สามารถดึงปรับแยกเป็นส่วนๆได้ ซึ่งอันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะครับ (เดิมๆที่ให้มาก็ฉลาดเพียงพอที่จะถ่ายหน้าให้ออกมาแล้วดูดีได้โดยไม่มีปัญหา)

-ถ่ายในที่แสงน้อย ซอฟแวร์กล้องหน้าจะเกลี่ย Noise ทิ้ง ทำให้ไม่มีจุดยิบๆกวนใจ แต่แลกมากับรายละเอียดภาพที่หายไป (อยู่ในเกณฑ์ดีเลย)
-งาน VDO กล้องหน้ายังถือว่าไม่สุด Fps ยังไม่สมูทมากพอ (ประมาณ 26-27fps) ซึ่งตัวท็อปควรจะลื่นกว่านี้ 

คะแนน 8/10 (หักในส่วนของ VDO กล้องหน้าที่อยากให้ลื่นกว่านี้หน่อย)



กล้องหลังความละเอียด 20 MP, รูรับแสง f/1.8, รองรับ phase detection autofocus , มีระบบกันสั่น OIS, dual-LED (dual tone) flash สามารถถ่าย VDO ได้สูงสุดที่ 4K 2160p@30fps, 1080p@30/60fps, 720p@240fps


ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง



จุดเด่นนอกจากความละเอียด 20MP แล้ว ก็คงจะเป็น f1.8 ที่ละลายหลังได้สมคำร่ำลือนี้แหละครับ (เอาจริงๆละลายได้มากกว่านี้นะ)


การเก็บแสง สี เงา ถือว่าไม่น้อยหน้าใครเลยราคานี้ (เผลอๆเกินด้วยซ้ำไป)


WB สีค่อนข้างตรงนะ ออกแนวเข้มๆไปนิดนึง


ชอบรูปนี้เพราะแสงกับเงาล้วนๆ โอ้แม่จ้าว มือถือเรท 15,000 มาถึงขั้นนี้แล้วรึ


ภาพงี้คมกริ้บ บอกเลยคอมแพ็คตัว 4-5 พันยังอาย


ถ่ายหลอดไฟดูบ้าง


นั่นแหละฮะทั่นผู้ชม


ถ่ายกลางคืนก็บ่ยั่น f1.8 ยังไงก็สบายๆครับ





สรุปสั้นๆได้ใจความ


-ถ่ายได้ดีมากๆทั้งแสงน้อย แสงมาก แสงอุษา (ไม่ใช่) เอาเป็นว่ากล้องคอมแพ็คเรท 4-5 พันมีเขินกันบ้างแหละ

-ถ่ายกลางคืนเก็บแสงได้ดี มีบางครั้งวัดแสงผิดภาพโอเวอร์เยอะไปหน่อย โฟกัสกลางคืนมีอาการช้านิดๆ
-งาน VDO เนี๊ยบมาก ลื่นปี๊ด ถ่ายได้สูงสุด 4K 30fps และ Full HD 1080p ที่ 60fps

คะแนน 9/10 (หักไปในส่วนของการโฟกัสตอนกลางคืนที่ช้าไปนี๊สสนึง)


-การเล่นเกม



     ZTE Axon 7 มาพร้อมกับ CPU ที่เรียกได้ว่าท็อปสุดแล้วของเรทราคา 15-16K ที่จะใส่มาให้ได้ โดยยัด Snapdragon 820 CPU ตัวท็อปของปี 2016 มาให้แบบไม่ไว้หน้าใคร แถม Ram จัดเต็มอีก 4GB LPDDR4 เล่นเอาซะคะแนน Antutu ทุลุยอดไปที่ 140000 กันเลยทีเดียว (น่าจะติดท็อปๆของ Antutu เลย ณ ตอนนี้ถ้าเทียบกับเรทราคาเดียวกันแล้ว หาคู่แข่งยากส์!!)
ด้วยหน้าจอความละเอียดสูงถึง 2K และเซ็นเซอร์ที่ให้มาครบไม่ขาดตกบกพร่อง ดังนั้น การใช้งานร่วมกับ VR ถึงไม่มีปัญหาครับ (เล่น Pokemon GO นี่ฟินเลย เซ็นเซอร์ดีโครตๆ)


Antutu แตะ 140,000

     จากการเล่นเกมมาพักใหญ่ๆ คิดว่า 99.99% ของเกมส์ใน Play Store เล่นได้ลื่นทุกเกม (เผื่อไว้ 0.01% บางทีเราเล่นแล้วไม่เจอ)  ดังนั้นใครจะซื้อไปเล่นเกม บอกเลยว่าเหมาะมากครับ



            โดยทดลองเล่นเกม Future Fight ปรับความสว่างหน้าจอ 50% กราฟิก MAX ทุกอย่าง


                 ผลที่ได้คือในระยะเวลา 30 นาทีใช้แบตเตอรี่ไปเพียง 15% เท่านั้นเอง 
                                         ส่วนของความลื่นไม่ต้องสืบ ลื่นปี๊ด

คะแนน 10/10 (เรทราคานี้ จัดเต็มขนาดนี้ เอาเถอะผมยอม)


- แบตเตอรี่และความร้อน





     ในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่ ZTE AXON 7 มีเทคโนโลยี QC 3.0 มาให้ ดังนั้นสบายใจได้เรื่องของการชาร์จแบตที่แม้ความจุจะเยอะ 3,250mAh ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเวลาแค่ 30 นาทีก็สามารถชาร์จไปได้ถึง 54% (แต่เคลมมาที่ 83% นู้น)


     ความร้อนหลังจากเล่นเกม อยู่ในเกณฑ์ปกติของสมาร์ทโฟน Body โลหะ ซึ่งถ้าเทียบกับ ZTE Axon ตัวเก่าแล้ว ถือว่าเย็นกว่าเดิมเยอะมาก!!! ตัวนั้นนี่ร้อนปี๊ดเลย


คะแนน 8/10 (หักไปในส่วนของเวลาชาร์จที่ไม่ตรงตามที่เคลมมา กับความร้อนของบอดี้นิดหน่อยเวลาเล่นเกม)


สรุปจุดเด่น จุดพิจารณา



จุดเด่น





1.เรทราคานี้ สเปคขนาดนี้ แทบจะหาใครสู้ด้วยไม่ได้เลย

2.เหมากับการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป ตีก็อล์ฟ (ไม่ใช่) ถือใช้งานได้ครบหมดสมกับเป็นตัวท็อปจริงๆ
3.ดีไซน์เครื่องได้สวยเช้งกว่าเดิมเยอะมากๆ
4.แสกนนิ้วมือเทพมาก ชาบูๆ ติดฝุ่นเยอะๆ ก็บ่ยั่น สามารถใช้งานได้ปกติ ความไวนี่ ไวกว่าคิซารุด้วยซ้ำไป (เวอร์นิดนึง ฮ่าๆ) ที่สำคัญ แสตนบายไว้ตลอดเวลา ปิดหน้าจออยู่ก็ใช้งานได้ทันทีไม่ต้องกดปุ่มใดๆ
5.ลำโพงกับระบบเสียงดีมากกกกกกกกกกก
6.กล้องหลังนี่ เอาใจไปทั้งดวง ทั้งงานภาพนิ่งและ VDO ที่จัดเต็มมากๆ
7.รองรับเทคโนโลยี Quick charge 3.0

จุดพิจารณา




1. VDO กล้องหน้าเฟรมเรทตกไปนิดนึง

2.ปุ่มไม่มีไฟ มีแต่ใจดวงเดียว (ฮั่นแหนะ)
3.กล้องหลังเจอสภาวะแสงน้อยแล้วโฟกัสไม่ค่อยติด
4.ซิมเป็นไฮบริด
5.สายเป็น USB type - C ช่วงแรกๆอาจจะหาสายลำบากหน่อย แต่คิดว่าสักพักก็หาง่ายละ ตัวท็อปๆ เล่น Type - C หมดแล้ว (มีหัวแปลง Type C to Micro USB มาให้ด้วยนะ )