และเทคโนโยลีของกล้อง Tri-Tech Auto Focus พร้อมทั้งแรมและรอมจัดเต็มและแถมหูฟัง Marshall มาครบถ้วน เปิดราคามาเพียง 14,990.-
สเปคโดยคร่าวๆ
Support 2 Sim / SIM 1 Micro SIM / SIM 2 Nano SIM
หน้าจอ : 5.5 นิ้ว Full HD Super IPS+ ความสว่างสูงมาก จอสวยใช้ได้เลย
CPU : Snapdragon 625 14nm.
GPU : Adreno 506
RAM : 4GB LPDDR3
ROM : 64 GB. เหลือลงแอพ 52.6 GB.
Android : 6.0.1 / ครอบทับ Zenui 3.0
Front Camera : 8 MP. มุมกว้าง 84 องศา f/2.0
Rear Camera : 16 MP. f/2.0 IMX298 / 6p Lagan Lens OIS แกน EIS 3 แกน
สามารถอัดวิดีโอได้ 4K และใช้กระจก Sapphire
*** กล้องหลังมาพร้อมเทคโนโลยี Tri-Tech Auto Focus
- Laser AF / - Phase Detection AF / - Continuous AF
Battery : 3,000 mAh. อึดใช้ได้ครบวันครับ
USB Type-C
บาง 7.69 mm. / Weight 155 g.
สแกนนิ้วด้านหลังเครื่องแบบ 360 องศา (ต้องทำท่าด้วย)
*** แถมหูฟัง Marshall Major 2
สรุปข้อดี Asus Zenfone3 Marshall Major2
- ตัวเครื่องสวย งานประกอบดีมากเนี๊ยบ
- ฟิลลิ่งดีมาก การจับดี ผมว่าทำมาดีจริงฟิลลิ่งการจับแม้หน้าจอใหญ่
- สเปคคุ้มค่าดี RAM ROM จัดมาเต็ม (อยู่ที่คนใช้)
- แถมหูฟังเสียงค่อนข้างคุ้มราคาครับ (ราคาหูฟังอย่างเดียว)
- ประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ดี ลื่นไหล
- กล้องโฟกัสไวมาก ทั้งกลางวันและประทับใจมากตอนแสงน้อย
- แบตเตอรี่อึด
ข้อพิจารณา Asus Zenfone3 Marshall Major2
- ไฟปุ่มไม่มี
- แอพติดเครื่องมาเยอะมาก ทำให้ลดพื้นที่ Storage
- หน้าตา UI กล้องหน้าผมว่ารกไปหน่อย (ส่วนตัว)
- รุ่นนี้เป็นรุ่นที่แถมหูฟังเสียงดีมาด้วย ประเด็นคือตัวเครื่องยังขับเสียงไม่เพราะพอที่จะฟัง Marshall ไปด้วยแล้วฟิน ทีมงานลองเอาไปเสียบกับเครื่องอื่นปรากฎว่าเสียงที่ได้ดีขึ้นมาอีกพอสมควร แต่หากคนที่อยากได้หูฟังและเครื่องด้วยก็จัดว่าคุ้มค่าครับ
(เกณฑ์การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นของทางเว็บเราเท่านั้น ยังมีเหตุผลอยู่ในรายละเอียดนะครับ)
แงะกล่องกันก่อน / ดูหูฟัง Marshall Major2 กันก่อนนะ
ตัวกล่องใหญ่ทีเดียวครับ อลังการงานสร้าง ตัวหนังสือสีทองสวย เงางามเหมือนหีบลังสมบัติเก่า ถ้าจะสั่งหรือส่งให้เพื่อนหรือลูกค้า ก็คงต้องซื้อกล่อง ข ขึ้นไปเพราะมันกล่องใหญ่ 55
เปิดมาต้อนรับ
เหมือนซื้อหูฟัง Marshall แล้วแถมเครื่อง Asus Zenfone 3
Marshall Major2
ด้านหลังกล่อง Marshall Major 2
เปิดออกมาเก็บเป็นระเบียบ หรูหรา หูถูกพับแล้วเก็บไว้ในล็อคกล่อง
มาดูตัวเครื่องกันบ้าง รูปทรงตัวเครื่อง
งานประกอบ /ความสวย 9.5/10
งานประกอบ /ความสวย 9.5/10
คือผมว่า Asus Gen ใหม่มาตั้งแต่เปิดตัวทำมือถือมาสวย งานประกอบดีกว่าเดิม เนี๊ยบ และฟิลลิ่งการจับหรือทัชดีมาก อันนี้ลองจับหลายๆ แล้วก็ลองเล่นใช้งานดูปรากฎว่าพอใจอย่างมากครับ ฟิลลิ่งถ้าใครเคยจับ S7 มาประมาณนั้นเลยแต่จอใหญ่มากกว่าหน่อย
ตัวเครื่องหน้าด้านมาพร้อมกระจก 2.5D Glorilla Glass4 ไฟปุ่มไม่มี
ด้านหลังเป็นกระจกสวยมาก เวลาดูเหลือบกับไฟจะหมุนเป็นวงกลมเหลือบสีกรมเงาเหมือน Galaxy S7
ไล่จากซ้ายคือ Laser Focus กล้อง และไฟแฟลช ด้านล่างกล้องเป็น สแกนนิ้วมือ
ตัวด้านข้างเครื่องทำขอบมน ทำให้จับถือสะดวกแต่ก็จะลื่นหน่อยๆ
ตัวของปุ่มนี่เป็นกิมมิกของ Asus เลยครับ เป็นชุบและมีลายวนๆ ในปุ่มเวลาเหลือบแสงสวยดี
หน้าจอสีสัน / คุณภาพ
หน้าจอ Asus Zenfone3 Marshall มาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว Full HD ชนิดจอ Super IPS+ ซึ่งให้ความสะหว่างมากๆ หน้าจอมาพร้อมโหมดปรับหน้าจอได้ครับตัวนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วสีเดิมดีอยู่แล้วครับ การปรับสีที่ผมเห็นประโยชน์เลยคือปรับให้วอร์ม มันจะไม่ได้ปรับให้เหมาะสมในการใช้งานนะ เหมือนกับโทนสีเอาตามใจเราชอบ การปรับโหมดสามารถกำหนดเองได้ซึ่งดีนะ ชอบแบบไหนก็กำหนดเลยเป็นมาตราฐานของวิศวะที่ยัดโหมดนี้เข้ามา จริงๆ โหลดแอพมาใช้งานได้แต่อาจจะไม่ดีเท่าจ้า
หน้าจอทำสีออกมาสวยใช้ได้ครับ แต่ความสว่างต้องยกให้เลย จอสว่างใสดี การใช้งานทั่วไปครอบคลุมทั้งมัลติมีเดียและการอ่านหนังสือบนเว็บ แต่เรทราคานี้มันจะมีจอที่คมกว่านี้อยู่นะ อันนี้พูดในเรทนี้ แต่หากในสายตาคนใช้ทั่วไปมันก็คือจอ Full HD IPS สวยๆ จอนึงเลย (กรณีอันนี้ผมเทียบหลายตัว ใช้งานจริงก็เพียงพอแล้วครับเพราะเราต้องดูโดยรวม) สรุปแล้วจอ Asus ผมประทับใจครับ จอทำมาดีกว่าเดิมที่เคยเล่นมาในหลายๆ ตัว ถือว่าพัฒนาจุดด้อยเรื่องความสว่างได้ดีมาก
มุมมองกว้างครับ ต้องขอชมจอของ Asus เลยสีสันยังสดอยู่แม้ขนาดเอียง
Social / Software / ประสิทธิภาพ 9.5/10
การใช้งานด้านโซเชี่ยลนั้นน่าประทับใจ และรอมานานว่า Asus จะได้ใช้ Snapdragon ตัวแรงๆ ที่มีประสิทธิภาพพอซักทีครับ เนื่องด้วยปัจจุบันการเล่นเฟซบุค การดูวิดีโอ ต้องทำต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เรื่องการจัดการความร้อนนี่ก็ต้องมาควบคู่ Asus Zenfone3 Marshall ทำได้ดีครับ เล่นลื่นมากๆ รวมทั้งฟิลลิ่งการทัชแบบตัวท็อปราคาหลัก 2 หมื่นเพราะกระจกมันลื่น อันนี้ต้องขอชม การใช้งานสลับแบบฟู๊บฟ๊าบนั้นทำได้สบายๆ ไม่หงุดหงิด เพราะพวกเราจิ้มกันรัวๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ผ่านนนน
หน้าตา UI ถ้าเป็นรุ่นเรทราคาต่ำกว่า 10,000.- ผมว่า OK แต่ถ้าเกิน 10,000.- ขึ้นมา ผมคิดว่าต้องทำให้มันออกมาเพื่อชูตัวของตัวเครื่องมากกว่านี้ครับ
ประสิทธิภาพ Antutu GeekBench A
sus Zenfone3 Marshall Limited Edition
1. Antutu Asus Zenfone3 Marshall ทำคะแนนได้ 62616 sus Zenfone3 Marshall Limited Edition
2. รายละเอียด Asus Zenfone3 Marshall
3. GeekBench Asus Zenfone3 Marshall ทำคะแนนได้ 821 Single Core / 4071 Multi Core
Sensor ของ Asus Zenfone3 Marshall
เข็มทิศ / Google Map
การจับสัญญาณ GPS ภายใน 20 วินาทีครับ ตั้งแต่ 10 วินาทีก็แรกก็จับได้พอประมาณแต่ไม่ได้แรงและเยอะมากครับ จริงๆ ต้องดีกว่านี้หน่อยนึง แต่แค่นี้ก็พอใช้ละครับ อิอิ
เครื่องคิดเลขของทาง Asus
ผมต้องขอชื่นชมมากๆ ครับมันสามารถใช้ทุกอย่างได้ ทั้งแปลงอุณหภูมิ ค่าเงิน พื้นที่
จัดมาให้เต็มไม่ต้องไปโหลดหรือเซิชเพิ่มเลยครับ ชอบมากอันนี้
จัดมาให้เต็มไม่ต้องไปโหลดหรือเซิชเพิ่มเลยครับ ชอบมากอันนี้
ระบบการปรับเสียงของ Asus Zenfone3 Marshall
การเล่นเกมส์ทั้ง 3 ระดับ
จาก 10 เกมส์ ให้คะแนน 8/10 ในเกมส์ที่มีเอฟเฟคสูงครับ มันเล่นได้ลื่นน่าประทับใจมาก แต่ในงบเรทนี้มันจะมีลื่นปี๊ดอยู่ ผมเลยจึงให้ 8/10 คะแนน จริงๆแล้วเอาไปใช้มันก็พอเพียงแล้วนะ 555 เอาเป็นว่าเล่นเกมส์หนักๆ ได้ครับแต่ไม่การันตีว่าจะลื่นทุกเกมส์
ส่วนเกมส์ที่มีเอฟเฟคน้อยหรือเกมส์ออนไลน์ก็เล่นได้ลื่นครับ จะมีเกมส์ออนไลน์บางเกมส์ที่ CPU แรงแค่ไหนก็ยังมีงึกๆ บ้างด้วยการโหลดเลเยอร์และข้อมูลตัวละครเป็นเรื่องปกติครับ โดยส่วนตัวเล่นเกมส์ Marvel Furture Fight ผ่านไปเลยครับ ลื่นไหล ประหยัดพลังงาน และจัดการความร้อนดี
เอาเป็นว่ารุ่น Zenfone3 Marshall เอาตัวนี้ไปเล่นเกมส์ได้นานๆ เลยครับน่าจะชอบ
ลำโพง ความดัง และความเพราะ 8/10
ลำโพง ความดัง และความเพราะ 8/10
ลำโพงดังใช้ได้เลยครับ เพราะด้วย เหมาะกับการใช้มัลติมีเดีย เปิดเพลงฟัง เล่นเกมส์ ดูหนัง
แต่คะแนน 8/10 เพราะว่าเรทนี้ยังมีตัวที่ลำโพงเทพๆ อยู่อีกครับเลยให้คะแนน 8/10 จริงๆมันเพราะและดังเพียงพอต่อการใช้งานแล้วจ้า
กล้องหน้า Asus Zenfone3 Marshall
ตัวกล้องสีภาพไม่ได้เน้นโทนใดเป็นหลัก สีสันจะสดใสเหมือนเอากล้องหลังถ่าย
เน้นคอนทราสจัดจ้าน และความอิ่มสีเข้มครับ ไม่ได้ซีด อมชมพู หรืออมเหลือง เป็นกล้องที่ถ่ายหน้าก็ได้
ถ่ายวิวก็ได้ สังเกตุภาพสุดท้ายภาพจะสีตรงเลย ไฟห้องผมสีส้มหน่อยๆ อันนี้ต้องชมไวท์บาลานซ์
กล้องหลัง Asus Zenfone3 Marshall
โหมดแสงน้อยจะลดความละเอียดลง แต่ในส่วนของภาพในที่มืดโครตๆ จะสว่างมากๆๆ
ภาพกล้องหลัง Asus Zenfone3 Marshall
กล้องหลังถ่ายได้ไวดีมากทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยระบบโฟกัส กลางคืนใช้เลเซอร์ช่วยก็โฟกัสได้ไวเก็บภาพมาไวและดีครับ ถ่ายได้สว่างและสีไม่เพี้ยนด้วย ตอนแรกก็คิดว่าทำไมสีไม่เพี้ยนเลยตอนแสงน้อย พอมาอ่านเทคโนโลยีเลยอ๋อเลย เพราะมีเทคโนโลยีช่วยไม่ให้สีเพี้ยนด้วยตัวนี้
ถ่ายภาพแสงน้อยดีมากครับ ไม่เพี้ยน เก็บไว เก็บเร็ว โฟกัสเข้า ได้ภาพเลย
Auto
งานวิดีโอกล้องหน้า Asus Zenfone3 Marshall 8.5/10
กล้องเป็นมาตราฐานใหม่เรทราคานี้เช่นกันถ้าไม่ไปนับพวกอินเตอร์แบรนด์ จะเห็นว่าทำออกมา
ได้ดีแล้วครับ การอัดเสียงและความลื่นไหล สามารถนำไปใช้ Live สด หรือถ่ายวิดีโอได้อยู่นะ
ความคมชัดก็ใช้ได้ครับ
งานวิดีโอกล้องหลัง 9/10
ตัวนี้ยัดเทคโนโลยีมาเยอะ แต่การถ่ายวิดีโอยังไม่สามารถโฟกัสอัติมันติ (เห็นว่าจะมีการอัพเดทนะครับ)
ตัวงานวิดีโอถือว่าเป็นมาตราฐานใหม่ของ Asus ครับภาพลื่นไหลเฟรมเรตไม่ตก
ทำได้ดีครับเมื่อเราถ่ายสภาพแสงที่มืดและสว่างมาก มันจะคำนวนแสงเฉลี่ย แล้วไม่โอเวอร์ไปด้วยและมืดไปเลยซะทีเดียว มันยังให้ความสำคัญสิ่งที่เราถ่ายให้สว่างควบคู่ไปด้วย และฉากหลังก็ยังเห็นอยู่
การอัดเสียงทำได้คมชัดดีมากครับ
1. โหมดกล้องหน้าของ Zen3 Marshall ก็เหมือนตัวอื่นๆ คือจัดเต็มมาก โหมดเสริมมาเยอะเลือกใช้
ตามสถานการณ์ครับ ส่วนตัวผมชอบโหมดแสงน้อย แล้วก็ HDR และโหมดบิวตี้ที่ใช้ประจำ
ตามสถานการณ์ครับ ส่วนตัวผมชอบโหมดแสงน้อย แล้วก็ HDR และโหมดบิวตี้ที่ใช้ประจำ
2. การปรับตั้งค่า Asus ให้มาละเอียดและยังสามารถอัพเดทตัวแอพได้ด้วย
3. โหมดบิวตี้ การปรับตั้งค่าผมว่ามันรกไปหน่อย จริงๆ เขาจะทำมาให้ดูง่ายๆ ครับกลาบเป็นบังหน้าหมด
ตัวอย่างภาพกล้องหน้า Asus Zenfone3 Marshall
กล้องหน้า Asus Zenfone3 Marshall มาพร้อมความละเอียด 8 MP. f/2.0 ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี และโหมดอลังการงานสร้างที่สุดเท่าที่เคยใข้มา กล้องหน้าถ่ายเป็นที่หน้าพอใจครับ ละเอียด คมใช้ได้เลย แต่ก็ยังไม่สุด เอาเป็นว่าคนชอบเซลฟี่ก็ตอบโจทย์ได้ดีครับ สามารถใช้วิดีโอคอลได้ดี เพราะกล้องมันถ่ายแสงน้อยดีด้วย ไม่แดง และไม่ฟุ้งมาก
การใช้งานกดง่าย ชัตเตอร์ไวใช้ได้เลย ภาพออกมาไม่เบลอ ไม่ต้องกลั้นหายใจในเวลาแสงน้อย
ตัวของกล้องจะเฉลี่ยแสงเมื่อเวลาถ่ายภาพเราเช่นเดียวกับกล้องหลังครับ ทำให้ภาพไม่เละเกินไปและไม่โอเวอร์มากเกินไป สรุปแล้วเรทราคานี้สวยใช้ได้เลยไม่ได้เป็นจุดเด่นมาก
การถ่ายย้อนแสงแบบ Auto จริงๆ เจ้าตัวนี้มีโหมด HDR ให้ใช้อยู่ครับ ภาพก็จะแบนหน่อยๆ
แต่จะเห็นรายละเอียดภาพจะดีมากขึ้น
แต่จะเห็นรายละเอียดภาพจะดีมากขึ้น
สีสันเก็บออกมาได้ดีมากครับ ตรงใช้ได้เลยสีเขียวของผนังสีแบบนี้เลย
ตัวกล้องสีภาพไม่ได้เน้นโทนใดเป็นหลัก สีสันจะสดใสเหมือนเอากล้องหลังถ่าย
เน้นคอนทราสจัดจ้าน และความอิ่มสีเข้มครับ ไม่ได้ซีด อมชมพู หรืออมเหลือง เป็นกล้องที่ถ่ายหน้าก็ได้
ถ่ายวิวก็ได้ สังเกตุภาพสุดท้ายภาพจะสีตรงเลย ไฟห้องผมสีส้มหน่อยๆ อันนี้ต้องชมไวท์บาลานซ์
กล้องหลัง Asus Zenfone3 Marshall
ตัวของโหมดโปรทำออกมาได้ละเอียดครับ เลือกใช้งานได้ละเอียด มีรายละเอียดบอกครบ
มี Histrogram มาให้ดูด้วยครับ และตัวของ Speed Shutter ต่ำสุด 32 วิครับ
ตัวของโหมดกล้องสามารถใช้งานได้ครอบคลุมมากๆ
มี Histrogram มาให้ดูด้วยครับ และตัวของ Speed Shutter ต่ำสุด 32 วิครับ
ตัวของโหมดกล้องสามารถใช้งานได้ครอบคลุมมากๆ
Asus Zenfone3 Marshall สามารถอึดวิดีโอได้ 4K และโหมดเยอะโครตๆๆ จริงๆ ใช่ไม่กี่โหมด เพราะ
โหมด Auto ก็กินขาดแล้วเพราะมันใช้ง่าย โฟกัสโครตไวครับ ในเรทราคานี้
โหมด Auto ก็กินขาดแล้วเพราะมันใช้ง่าย โฟกัสโครตไวครับ ในเรทราคานี้
โหมดแสงน้อยจะลดความละเอียดลง แต่ในส่วนของภาพในที่มืดโครตๆ จะสว่างมากๆๆ
ภาพกล้องหลัง Asus Zenfone3 Marshall
กล้องหลังถ่ายได้ไวดีมากทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยระบบโฟกัส กลางคืนใช้เลเซอร์ช่วยก็โฟกัสได้ไวเก็บภาพมาไวและดีครับ ถ่ายได้สว่างและสีไม่เพี้ยนด้วย ตอนแรกก็คิดว่าทำไมสีไม่เพี้ยนเลยตอนแสงน้อย พอมาอ่านเทคโนโลยีเลยอ๋อเลย เพราะมีเทคโนโลยีช่วยไม่ให้สีเพี้ยนด้วยตัวนี้
ถ่ายภาพแสงน้อยดีมากครับ ไม่เพี้ยน เก็บไว เก็บเร็ว โฟกัสเข้า ได้ภาพเลย
Auto ถ่ายง่ายมากครับ โฟกัสไวมาก ภาพคมดีมาก ไดนามิกส์ก็ดีด้วย
Auto
HDR ของตัวมันอย่างที่บอกมันไม่ได้ถ่ายภาพซ้อนให้นานครับ มันดึงจุดมืดขึ้นมา โดยที่ส่วนสว่างยังคงเดิม หรือว่าดึงลงมานิดเดียวครับ ดูจากภาพด้านบน ตัวของ HDR ตัวนี้ไม่ได้ทำให้ภาพแบนไปเลยหรือภาพแตกต่างจากเดิมไปเลยครับ ผมว่าทำมาได้ดี แต่หากว่ามันย้อนแสงมากและแสงน้อยมันจะขึ้นน๊อยส์
แต่ได้มาซึ่งภาพใช้งานได้เลย และภาพไม่แบนเหมือนมือถือทั่วไปที่ซ้อนแล้วดึงจนภาพเพี้ยนไปเลยก็มี
แล้วแต่คนเอาไปใช้นะครับ
Auto
ภาพนี้จากการเทสจากหลายๆตัว ตัวอื่นจะดึงภาพจนสีเพี้ยนและแบนเพื่อเอารายละเอียดภาพส่วนที่สว่างมันโอเวอร์กลับคืนมาครับ แต่ตัวนี้ทำได้ดีมากเรื่อง HDR สีสันยังคงเดิมไม่เพี้ยนมากและยังเก็บมิติภาพได้ดีพร้อมรายละเอียดครับ พี่นิกก็ชมในจุดๆ นี้ พอเราเทียบกับหลายตัวเราเห็นว่าตัวนี้มันทำงานฉลาดดีนะเรื่อง HDR ในการเก็บภาพในที่ส่วนมืดส่วนสว่างแตกต่างกันมาก
อันนี้ถ่ายที่แสงน้อยครับ จริงๆ มีแสงเข้ามาหน่อยเดียว แต่ถ่ายออกมาสีไม่เพี้ยนเลย และสว่างอันนี้ขอชมเลย สียังสดอยู่เหมือนเดิม รายละเอียดดีมาก สามารถกดดูภาพเต็มได้นะครับ
งานวิดีโอกล้องหน้า Asus Zenfone3 Marshall 8.5/10
กล้องเป็นมาตราฐานใหม่เรทราคานี้เช่นกันถ้าไม่ไปนับพวกอินเตอร์แบรนด์ จะเห็นว่าทำออกมา
ได้ดีแล้วครับ การอัดเสียงและความลื่นไหล สามารถนำไปใช้ Live สด หรือถ่ายวิดีโอได้อยู่นะ
ความคมชัดก็ใช้ได้ครับ
ตัวนี้ยัดเทคโนโลยีมาเยอะ แต่การถ่ายวิดีโอยังไม่สามารถโฟกัสอัติมันติ (เห็นว่าจะมีการอัพเดทนะครับ)
ตัวงานวิดีโอถือว่าเป็นมาตราฐานใหม่ของ Asus ครับภาพลื่นไหลเฟรมเรตไม่ตก
ทำได้ดีครับเมื่อเราถ่ายสภาพแสงที่มืดและสว่างมาก มันจะคำนวนแสงเฉลี่ย แล้วไม่โอเวอร์ไปด้วยและมืดไปเลยซะทีเดียว มันยังให้ความสำคัญสิ่งที่เราถ่ายให้สว่างควบคู่ไปด้วย และฉากหลังก็ยังเห็นอยู่
การอัดเสียงทำได้คมชัดดีมากครับ
สรุปข้อดี Asus Zenfone3 Marshall Major2
- ตัวเครื่องสวย งานประกอบดีมากเนี๊ยบ
- ฟิลลิ่งดีมาก การจับดี ผมว่าทำมาดีจริงฟิลลิ่งการจับแม้หน้าจอใหญ่
- สเปคคุ้มค่าดี RAM ROM จัดมาเต็ม (อยู่ที่คนใช้)- แถมหูฟังเสียงค่อนข้างคุ้มราคาครับ (ราคาหูฟังอย่างเดียว)- ประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ดี ลื่นไหล- กล้องโฟกัสไวมาก ทั้งกลางวันและประทับใจมากตอนแสงน้อย- แบตเตอรี่อึด
ข้อพิจารณา Asus Zenfone3 Marshall Major2
- ไฟปุ่มไม่มี
- ไฟปุ่มไม่มี
- แอพติดเครื่องมาเยอะมาก ทำให้ลดพื้นที่ Storage
- หน้าตา UI กล้องหน้าผมว่ารกไปหน่อย (ส่วนตัว)
- รุ่นนี้เป็นรุ่นที่แถมหูฟังเสียงดีมาด้วย ประเด็นคือตัวเครื่องยังขับเสียงไม่เพราะพอที่จะฟัง Marshall ไปด้วยแล้วฟิน ทีมงานลองเอาไปเสียบกับเครื่องอื่นปรากฎว่าเสียงที่ได้ดีขึ้นมาอีกพอสมควร แต่หากคนที่อยากได้หูฟังและเครื่องด้วยก็จัดว่าคุ้มค่าครับ
- หน้าตา UI กล้องหน้าผมว่ารกไปหน่อย (ส่วนตัว)
- รุ่นนี้เป็นรุ่นที่แถมหูฟังเสียงดีมาด้วย ประเด็นคือตัวเครื่องยังขับเสียงไม่เพราะพอที่จะฟัง Marshall ไปด้วยแล้วฟิน ทีมงานลองเอาไปเสียบกับเครื่องอื่นปรากฎว่าเสียงที่ได้ดีขึ้นมาอีกพอสมควร แต่หากคนที่อยากได้หูฟังและเครื่องด้วยก็จัดว่าคุ้มค่าครับ