.

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

เลือก CPU, GPU, RAM มือถือด้วยตัวเอง(หมดเปลือก)


ต้อนรับปีใหม่นี้คาดว่าหลายๆคน อาจจะเริ่มมองหามือถือรุ่นใหม่ๆมาแล้วว่าจะเลือกตัวไหนกันดี แต่เคยมั้ย ? เวลาดูสเปคเครื่องทีไรหลายๆคนบอกว่าก็เลือกเครื่อง CPU ที่แรงๆหลายๆ Ghz ไปเลย Ram ก็อัดเยอะๆไว้ก่อน  ซึ่งถ้าหากมีงบถึงแน่นอนว่าหลายๆคนก็ต้องเลือกเครื่องที่สเปคแรงๆอยู่แล้ว  แต่ทีนี้ถ้าเกิดเรามีงบแบบ ครึ่งๆกลางๆล่ะ ?! จะไปรุ่น Flagship ล่ะ แต่ก็ติดๆรุ่น Mid-top ทีนี้จะเลือกยังไงดี ?  ที่หลายๆคนเค้าบอกว่ามือถือจีนบางรุ่นเนี่ยสเปค ข่มรุ่น Flagship ยี่ห้ออื่นสบายๆ เขาใช้หลักอะไรดูกันนะนอกจากความแรง CPU กับ Ram ? มาเริ่มดูกันได้เลยครับเพื่อนๆ


1.สายเกมเมอร์ต้องอัด GPU แรงๆ !!!



              ผมยอมรับก่อนเลยว่าเป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่นเกมบนมือถือมากๆ ซึ่งแต่ล่ะเกมที่เล่นก็เป็นพวกเกมกราฟฟิคเทพๆพอร์ตจากคอมมาลงมือถือซะด้วย ไม่ว่าจะเป็น GTA San Andreas, StarWar : KOTOR หรือกระทั่งเกมซีรีส์ภาคต่อสาดกระสุนมันส์ๆอย่าง Modern Combat 5 แต่จะเลือกดูยังไงดีว่า ให้เล่นได้ลื่นๆซึ่งนี่ก็เป็นเทคนิคส่วนตัวสำหรับผมเวลาเลือกสเปคมือถือไว้เล่นเกมครับ 

 1.1) เข้าไปตรวจสอบสเปคมือถือตัวเองในเว็บเช่น GSMArena หรือจะเว็บไทยอย่าง SiamPhone, ThaiMobileCenter ยิ่งข้อมูลละเอียดเราก็ยิ่งเช็คง่ายครับไม่ต้องไปหาใน Google เอง  แต่สำหรับใครมีเครื่องเดิมอยู่แล้วแค่ต้องการเช็คสเปคเครื่องเพื่อเป็นแนวทางดูว่าต้องอัพเกรดเครื่องประมาณไหนก็ให้โหลดแอพ CPU-Z มาเช็คได้ครับ

 2.2) เข้าGoogle ไปหาชื่อรุ่น GPU ของตัวเองในเว็บ Mobile GPU Check เรียงความแรงแต่ล่ะรุ่นให้แล้ว
**-GFLOPS หรือตัวคำนวนหน่วยทศนิยม พันล้านตัว/วินาที ยิ่งมากแสดงว่า GPU ของเรานั้นมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเราจะตัดสินกันจากตัวนี้ว่าตัวไหนแรงกว่ากัน
เช็คของ Snapdragon Adreno GPUPowerVR GPU , Mali GPU

- OpenGL คือตัวพวก Render กราฟฟิคหรือการวาดเส้นต่างๆอย่างที่เราเห็นในโหมด บังคับการ Render Hardware ก็คือสั่งให้ใช้ OpenGl เข้าไป Render พวกการวาดเส้นเสมอครับ โดยปัจจุบันจะมีทั้ง OpenGL3.0 และ ES3.0 ซึ่งตัว ES 3.0 จะดีกว่า GL3.0 เพราะมีการรวมพวกข้อมูลกราฟฟิคประมวลผลจากตัว GL ทั้งหมดลงไปใน ES 3.0 ให้เลยอีกทั้งยังเพิ่มการ Render กราฟฟิคใหม่ๆได้ดีกว่า ดังนั้นถ้าเจอระหว่าง GL กับ ES ก็เลือกตัว ES ไปเลยจะดีกว่าครับเพราะได้ Feature เก่ามาครบ

-DirectX ส่วนมากตัวนี้ใครเล่นคอมน่าจะรู้จักอยู่แล้วก็คือเป็นตัวช่วยในการประมวลผลภาพ, เสียง ให้ออกมาได้สวยงาม เสียงชัดเจนซึ่งตัวเก่าๆอย่างของผม Galaxy S5 ใช้ Snapdragon 801 ที่ใช้ GPU Adreno 330 รองรับแค่ DirectX9 พวกเกมใหม่ๆที่มีกราฟฟิคสวยๆเครื่องนี้ก็จะประมวลผลได้ไม่สวยเท่าซึ่งกราฟฟิคจะลดลงมา แต่ถ้าเป็นอย่างพวกรุ่นใหม่ๆ อย่างซีรีส์ Adreno 400, 500 ก็จะรองรับ DirectX11 ทั้งหมดแล้ว ซึ่งให้ภาพที่ดีกว่า ประมวลผลได้ดีกว่า(ผลของ ARMv8 ด้วย) ซึ่งหลักการดูของ Mali กับ PowerVr ก็ใช้หลักการเดียวกันครับ

-NM หรือ Nanometre คือสถาปัตยกรรมการสร้างยิ่งค่าน้อยยิ่งประหยัดไฟและร้อนน้อยลงอย่าง Snapdragon 835 นั้นมีขนาดเพียงแค่ 10 NM !!!

-Speed Clock ยิ่งวิ่งด้วยความเร็วมากๆยิ่งดี

2.จะสาย 32 หรือ 64 bit ก็ต้องรู้จัก ARMv


             ARMv คืออะไร ? ผมค่อนข้างจะเดาได้เลยว่าเพื่อนๆในเพจของเราน่าจะเคยเจอมาแน่ๆครับ ! สำหรับตรงสเปคส่วน CPU ก็จะมีเขียนกำกับไว้ในบางรุ่น ก่อนอื่นเรามารู้จักกันก่อนว่าเค้าคือใคร ARM คือเทคโนโลยี CPU สำหรับอุปกรณ์พกพาที่นิยมที่สุด เพราะว่า ARM นั้นมีอัตราการกินไฟที่ต่ำ, ร้อนน้อยกว่าและที่สำคัญคือราคาถูกกว่า ไนอกจากนั้นยังได้ประสิทธิภาพสูงสุดในบรรดา CPU ทั้งหมด เมื่อคำนวนหน่วยประสิทธิภาพที่ได้ต่อวัตต์ไฟที่ใช้ไป  ทำให้ ARM จึงเป็นที่นิยมกับอุปกรณ์พกพา ลองจินตนาการดูหากมือถือเรามีประสิทธิภาพที่สูงม้ากมาก (เสียงสูง) แต่ว่าทำงานได้แค่ 20 นาทีแล้วต้องเสียบสายชารต์ ก็คงไม่มีใครใช้อย่างแน่นอน ตรงจุดนี้ทำให้ ARM ชนะคู่แข่งอย่าง Intel ในตลาดพกพาไปอย่างขาดลอย  
ซึ่งสำหรับ ARMv ตอนนี้หลักๆจะแบ่งได้เป็นสองตัวคือ 
ARMv7 เป็นตัว CPU ที่รองรับได้สูงสุด 32 bit ซึ่งนั่นก็หมายความว่าแรมสูงสุดที่เป็นไปได้คือ 4 GB
ARMv8 เป็นตัว CPU สำหรับเครื่องชิปใหม่ๆ ที่รองรับทั้ง 32bit และ 64 bit มีชุดคำสั่งใหม่ๆที่ดีกว่าตัว ARMv7
โดยวิธีสังเกตง่ายๆคือ ARMv7 จะเป็นตัวที่เลขไม่เกิน Cortex-A17 ส่วนตระกูล ARMv8 ทุกตัวจะเริ่มตั้งแต่ Cortex-A32 เป็นต้นไป
อะไรคือ CPU 32/64 bit คลิก !
ดังนั้นการที่เรารู้จักไปแล้วว่า CPU ตัวนี้ใช้ CPU แบบใดก็ทำให้เราตัดสินใจเลือกเครื่้องได้ง่ายขึ้นครับ

3.Cortex CPU ไถลหน้าจอลื่นๆโหลดไวชั่วพริบตา

จากข้างบนเราได้แบ่งประเภทของ ARMv อย่างคร่าวๆไปแล้วสองแบบ แต่ทีนี้ เราจะมาดูลึกขึ้นเข้าไปข้างในว่า ARMv7 หรือ ARMv8 ตัวนี้ ทำงานบน Cortex หรือที่เรียกว่าสถาปัตยกรรม CPU แบบใด
ซึ่งกราฟนี้คือให้เทียบระหว่างตระกูล Cortex ประสิทธิภาพใกล้เคียงกันครับว่ามีเปอร์เซ็นต์แตกต่างกัน
เท่าใด (อย่าดูข้ามรุ่นกันครับไม่อย่างนั้นจะ ตกใจว่าทำไม a72 ถึงมีคะแนนเท่ากับ a32 ครับ ฮา)
วิธีการวัดความสามารถ CPU คือจะคำนวนกันจาก Floating Point หรือที่เรียกว่าจุดทศนิยมครับใครคำนวนได้ละเอียดกว่าคือชนะไปแต่ก็อาจใช้ปัจจัยอื่นมาบวกลบเสริมเติมให้ได้นิดหน่อยครับ
ข้างล่างนี้คือคำอธิบายเพิ่มเติมแบบละเอียดเพื่อใครสนใจจะศึกษาครับแต่วิธีดูง่ายๆความแรงผมเรียงให้ตามกราฟแล้วสามารถใช้เป็นเกณฑ์ได้เลย หรือหน่วย DMIPS/MHZ  ที่ใช้วัดความแรง CPU ยิ่งมากถือว่ายิ่งดีซึ่งเราจะใช้วัดควบคู่กับความเร็วของ CPU จริงๆประกอบการตัดสินด้วยนะครับว่าวิ่งกี่ Ghz ใน CPU Cortex เดียวกัน
3.1) Ultra-High Efficiency ประสิทธิภาพต่ำที่สุด **วิ่งด้วยความเร็วเท่ากัน


Cortex-A5 ความเร็ว 1.57 DMIPS ถ้าใครเริ่มมามือถือยุคบุกเบิก Single Core ก็จะเคยเห็นตัว A5 มาบ้าง ซึ่งตัวนี้คือ CPU ARMv7 ที่ประสิทธิภาพต่ำที่สุดและออกแบบมาเพื่อ Single Core 
Cortex- A7 ความเร็ว 1.9 DMIPS นั้นมีความแรงกว่าตัว A5 รุ่นเดิมอยู่ถึง 20% ส่วนมากจะใช้ควบกับ A15 ตัวอย่างเช่น Chip Samsung Exynos 5 (5410) ที่ออกมาตอนนั้นช่วงปี 2014 ก่อนนู้นก็เป็นข่าวฮือฮาเรื่องการโฆษณาที่มาพร้อมกับ CPU 8 ตัว แต่เป็น CPU สถาปัตยกรรม ARM.big.LITTLE  ซึ่งไว้จะเล่าในคราวหน้าครับ
Cortex-A32 และ A35  ความเร็ว 1.78 DMIPS ทั้งสองตัวนี้นั้นเป็น ARMv8 ทั้งคู่แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ A32 นั้น ยังไม่ได้เป็น ARMv8 แบบเต็มรูปแบบเพราะยังคงเป็น ARMv8 ที่รองรับได้แค่แบบ 32bit อย่างเดียว แต่ตัว A35 นั้นจะรองรับได้ทั้ง 32bit และ 64bit ครับ แต่โดยรวมคือสองตัวนี้นั้นประหยัดไฟกว่า A7 และแรงกว่า 25%

3.2)High Efficiency ประสิทธิภาพระดับกลาง **วิ่งด้วยความเร็วเท่ากัน

Cortex-A9  ความเร็ว 2.5 DMIPS ตัวนี้ก็ถือเป็นอีกตัวที่ยอดนิยมพบได้บ่อยเช่นมือถือชิป Mediatek 
Cortex-A53 ความเร็ว  2.24 DMIPS  ARMv8 รองรับ 64 bit เต็มรูปแบบ ซึ่งตัวนี้ส่วนมากก็มักจะอยู่ในสเปคมือถือที่กลางๆไปทางสูงแล้วซึ่งส่วนมากก็จะใช้เป็น Octa-core แบบสลับการทำงานที่เรียกว่า ARM.big.LITTLE ตัวอย่างก็คือเครื่องที่ผมมีพอคือ Vivo V3 MAX ที่ใช้ Snapdragon 652 ก็เป็น Octa-Core แบบนี้โดยตัวแรกคือ A53 อีกตัวที่ใช้ตอนทำงานหนักๆคือ A72 ซึ่งก็กินขาด Galaxy S5 อีกเครื่องผมที่มีด้วย ซึ่งใช้ Snapdragon 801 ไปเลยจากการเทสบน Assasin creed Identity ตัว V3Max เล่นแล้วลื่นกว่าไม่สะดุดเลยสักจุด ส่วน S5 จะกระตุกตลอด

3.3)ประสิทธิภาพระดับสูงสุด **วิ่งด้วยความเร็วเท่ากัน
Cortex-A15  ความเร็ว 3.5-4.0 DMIPS ซึ่งตัวนี้หลายๆคนน่าจะรู้จักซึ่งก็คือ Exynos 5, Tegra 4 เป็นต้น
Cortex-A17 ความเร็ว 4.0 DMIPS  ตัวนี้ถือเป็นก้าวที่สูงที่สุดในตระกูล ARMv7 แล้วก็ว่าได้เพราะให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับตัว A15 แต่ว่าประหยัดพลังงานกว่าตัวเดิมถึง 40%
Cortex-A57  ความเร็ว 4.6 DMIPS  ARMv8 รองรับ 64 bit เต็มรูปแบบ เช่น Snapdragon810
Cortex-A72 ความเร็ว 4.72 DMIPS ARMv8 รองรับ 64 bit เต็มรูปแบบ เช่น Kirin950 ของ Huawei
Cortex-A73  ความเร็ว 4.8 DMIPS ARMv8 รองรับ 64 bit เต็มรูปแบบ เช่น Kirin960 ของ Huawei

กราฟแสดงประสิทธิภาพระหว่าง ARM Cortex 32 bit กับ 64bit




อันนี้เป็นกราฟสรุปสำหรับใครที่ต้องการจะดูข้อมูลเพิ่มเติม จะเห็นได้ว่าโซน 32 bit ประสิทธิภาพจะไล่กันไปตั้งแต่น้อยไปมากตามรุ่น Cortex โดยแถวๆตัว A15 กับ A17 นั้นประสิทธิภาพจะค่อนข้างใกล้เคียงกันมากแต่ต่างกันตรงการประหยัดพลังงานครับที่ตัว A17 จะทำได้ดีกว่า   แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าแปลกคือ โซน 64bit เราอาจจะคิดว่ามันต้องแรงกว่า 32 bit แน่นอน แต่กลายเป็นว่า A9 นั้นมีประสิทธิภาพพอๆกับ A53 เลยตามที่เราใช้หน่วยวัด  แต่ถ้ามาสังเกตดูที่ ตั้งแต่ A57 จะเห็นว่าความสามารถของ  CPU 64 bit ถึงจะได้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่เพราะมีความแรงกว่าเดิมเกือบสองเท่าและพอไปถึง A72 เรียกได้ว่าหลุดโลกไปเลยทีเดียว
ปล.Snapdragon บางตัวใช้สถาปัตยกรรมของตัวเองที่ชื่อว่า Krait หรือตัวโหดใหม่ล่าสุดชื่ออย่าง Snapdragon 835ใช้สถาปัตยกรรม CPU ชื่อ  Kyro 280 แทน Cortex
ปล2.Octa-Core จริงๆก็ทำงานแค่ 4 ตัวสลับกันระหว่างหลักกับรอง เราจึงควรใส่ใจแค่ Core หลักที่แรงที่สุดว่า แรงเพียงพอแล้วหรือยังครับไม่ใช่นำ Core หลักกับ Core รองมาบวกรวมกัน !!!


4.Ram เยอะ Multitask สบายไร้กังวล


ด้วยการที่ Android เป็นระบบ Multitasking ทำให้ตัวระบบอาจจะกินแรมเพื่อนำไปเรียกข้อมูลได้รวดเร็วเวลาเราเปิดหลายๆหน้า สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือก Ra, ขนาดเท่าใด ผมก็ขอแนะนำว่าควรจะเริ่มสัก 2GB สำหรับยุคนี้ครับ โดยรายละเอียดเพิ่มเติมไปที่


สรุป
สเปคขั้นต่ำเล่นเกม :
Ram 2 GB
CPU น่าจะมาใช้ตระกูล ARMv8 เพื่อรองรับแอพใหม่ๆในอนาคต
GPU:ขั้นต่ำ Adreno 320, Tegra 4, PowerVR G6430 

มาถึงในส่วนท้ายกันแล้วผมเองก็หวังว่าเพื่อนๆจะได้รับความรู้ไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับเรื่อง Hardware ของมือถือและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเทคโนโลยี ไว้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกมือถือคู่ใจเครื่องต่อไปนะครับสำหรับผมหวินก็ขอลาไปก่อนพบกันใหม่ในบทความหน้าสวัสดีครับ



อ้างอิงและข้อมูลทางเทคนิค  :
CNX-Software
ARM Processors