.

วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2560

Review : รีวิว Oppo R9s Plus จากความรู้สึก 15+ (เน้นกล้อง แบบละเอียดยิบ)


     แหม๊ นี่มันช่วงเปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวท็อปของแต่ละค่ายจริงๆ ไล่ตั้งแต่พี่แซม พี่หัว พี่แอล น้องวี มีหรือน้องออปโป๊ะ (พี่นินิวตั้งชื่อให้) จะพลาดกับเค้าไป ผมนี่ตามเก็บข้อมูลกันจ้าละหวั่นถาโถมกันมาอาทิตย์เดียวเกือบทุกแบรนด์ ... สมอง Error ขึ้นจอฟ้าเลยฮะ ...

     สมัยนี่สเป็คอย่างเดียวขายไม่ได้แล้วนะ รองจากแบรนด์อิมเมจิ้นก็กล้องนี่แหละครับที่แต่ละเจ้าชูโรงกันสุดๆ Dual Pixel เอย , กล้องคู่เลนส์ไวด์เอย , ไลก้าเอย , คราไซน์เอย แม้แต่ไฮเอ็นด์อย่างฮาร์ดเซลบลัดยังลงมาร่วมแจม คิดดูว่าฮิตกันขนาดไหน

     OPPO เปิดตัวมารอบนี้ในซีรีย์ R ซึ่งแน่นอนว่าซีรีย์นี้เน้น "กล้องหลัง" เป็นพิเศษ (ซีรีย์ F จะเน้นกล้องหน้าแทน มีข่าว OPPO F3 มาเรื่อยๆ ถ้าเข้าไทยจะรีบอัพเดทให้เลยจ้า) ครั้นจะเล่นมุกความละเอียดสูงๆแบบเก่าคงใช่เรื่องเพราะ User เริ่มให้ความสำคัญด้านอื่นมากกว่าความละเอียดที่ต่อให้มากขนาด 20-30MP โพสลง Facebook ยังไงพี่แกก็จับย่อให้เหลือ 2MP อยู่ดี




     OPPO R9s Plus มารอบนี้ชูโรงที่เทคโนโลยี "กันสั่น OIS" ซึ่งมีเฉพาะ ตัว Plus เท่านั้น  (ทำนองเดียวกับ iPhone ที่มีกล้องคู่แค่ตัว 7Plus) R9s ธรรมดาอดไป ดังนั้นรีวิวนี้จะเน้นการใช้กล้องเป็นพิเศษหน่อย ให้สมกับ OIS ที่พี่เค้าชูโรงมา ใครที่กำลังคิดจะซื้อไม่ควรพลาดครับ

คลิปรีวิวแบบเต็มเหนี่ยวสำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านจากช่องของพวกเราเอง Youtube : GU ZAP

เทสกันหนักหน่วงไม่มีกั๊ก


Full Spec OPPO R9s Plus by GUZAP

Model
OPPO R9s Plus

Display
IPS ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (ครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 5)
Processor
( CPU )
Qualcomm Snapdragon 653 Clock speed 1.9Ghz
GPU
Adreno 510
RAM
6 GB
ROM
64 GB
Android V.
Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย Color OS 3.0
+ Micro SD Card
256GB (Slot SIM 2)
Front camera
16MP, f2.0 , VDO 1080P 30fps
Rear camera
16 MP, f/1.7, VDO 4K phase detection autofocus, LED flash
Battery
Li-Polymer 4,000 mAh
Connectivity
Dual SIM (Nano-SIM, dual stand-by)
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct
Extras
Fingerprint ,เทคโนโลยีชาร์จไว VOOC
Dimensions
-
ราคาเปิดตัว
16,990 ฿


- แกะกล่อง -

หน้าตากล่องเหมือนๆกับตัว R9s ธรรมดาชนิดที่ว่าไม่อ่านคำว่า Plus นี่แยกไม่ออกเลย

สไลด์มาดูหน่อย

เปิดฝากล่องมาก็เจอตัวเครื่องนอนแอ้งแม้งอยู่ เครื่องที่เราได้มาเป็นสีทอง

เข็มจิ้มซิมอยู่ม่องนี้เด้อ

ฝารองระหว่างชั้นถูกดีไซน์มาให้เป็นช่องเก็บซิลิโคนเคสแบบนุ่มนิ่ม คู่มืออะไรก็อยู่ตรงนี้ครับ ประหยัดเนื้อที่ไป

ที่น่าแปลกใจคือหูฟังเป็นคนละตัวกับ R9s ธรรมดา ตัวนี้จะเป็นแบบ in ear คุณภาพเสียงกลางๆไม่ได้ว้าวมากมาย

ชอบอย่างคือใส่สบายหูมากกกกกกกก หูฟังจะออกแนว Sport หน่อยๆ

คลิปแกะกล่อง Unbox จากความรู้สึกแรกสัมผัส

- วัสดุรอบตัวเครื่องและการจับถือ -


     ถ้าดูจากสถิติที่ผ่านมาแล้ว OPPO แทบจะไม่ทำสมาร์ทโฟนจอใหญ่ออกสู่ตลาดเลย ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 5.5" แปลกที่รอบนี้จัดมาซะ 6" ซึ่งมันพกพายากพอสมควรนะ (แลกมากับเล่นโซเชียลฟินๆแล้วผมว่าคุ้ม)


     ฟิ่ลลิ่งการจับถือรู้สึกใหญ่กว่า 5.5" ตามท้องตลาดเล็กน้อย ถ้าสังเกตุดูดีๆจะเห็นขอบจอบางมาก บางพอๆกับ F1s , F1 Plus เลย ดูดีที่เดียว ฟิล์มที่ติดมาให้เป็นฟิล์มกระจกแบบบาง บางไม่พอ เต็มจออีก! ชอบมาก

ด้านหลังเหมือนกับ OPPO R9s เดะๆ แค่ขยายให้ใหญ่ขึ้นตามขนาดหน้าจอ

ขีดสัญญาณแบบใหม่ 6 เส้น บน 3 ล่าง 3 โต๊ดเต็ง(100x100) ดูแปลกตาทีเดียว

ฝั่งด้านขวาเป็นถาดซิมแบบ Nano ทั้ง 2 SIM (แบบไฮบริด) ถัดมาก็ปุ่ม Power ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่ารอบตัวเครื่องใช้ CNC Cut มารอบเลย

ความบางถือว่าบางมากนะ ถ้านับว่ามันเป็นมือถือจอ 6" แล้วแบต 4,000 mAh ด้วย Slim สุดๆ ถ้าเทียบกับมือถือตลาดอย่าง iPhone 6 แล้วความหนาพอๆกัน

ตูดงามงอน เรียงจากซ้ายไปขวา มีช่องเสียบหูฟัง 3.5" , ไมค์สนทนา , ช่องเสียบชาร์จแบบ Micro USB รองรับชาร์จไว VOOC และลำโพง

ด้านซ้ายมือจะเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง

ไมค์ตัดเสียงรบกวนอยู่ด้านบนริมซ้าย ตัดเสียงรบกวนได้พอประมาณ

- หน้าจอ / UI / และทัชสกรีน -

ตัว Plus จะใช้หน้าจอต่างจากตัวธรรมดาคือเปลี่ยนพาแนล AMOLED มาเป็น IPS แทน หลายๆคนคงสงสัย เอะ ตกลงมันดรอปลงงั้นเหรอ ? เปล่าครับ ... มันมีดีในตัวของมันเอง


     ใครที่เคยใช้มือถือจอ AMOLED คงจะเข้าใจว่าถึงแม้สีมันจี๊ดจ๊าดโดนใจวัยรุ่น  แต่ปัญหาจุกจิกอย่างจอเบิร์นก็เจอได้บ่อยๆ กลับกัน IPS สีสดไม่เท่า แต่ปัญหาจุกจิกของ IPS เจอได้น้อยมาก ดังนั้นผมว่ามันไม่ได้ด้อยกว่ากันหรอก ... ดีกันคนละแบบมากกว่า


     จากที่เล่นมาหน้าจอของ R9s Plus อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก จอคมสีนวลตา ฟิลลิ่งการทัช 9/10 แทบจะไม่มีอาการช้าหรือหน่วงให้เจอเลย

UI แบบ OPPO สไตล์ รู้สึกว่า UI เค้ามองแล้วสบายตานะ แทบจะไม่อยากเปลี่ยน Wallpaper เลย โหมดต่างๆเข้าถึงง่าย แถบแจ้งเตือนไม่รก/เคลียแจ้งเตือนง่ายไม่ต้องกดหลายรอบ โดยรวมแล้วชอบครับ

- ฟังก์ชั่นแสกนลายนิ้วมือ -


     ปุ่มโฮมเป็นปุ่มที่กดแล้วไม่ยุบลงไปนะ (ไม่รู้ศัพท์ทางการเค้าเรียกยังไง เรียกว่ามันกดแล้วไม่ยุบละกัน) ความไวในการแสกนนิ้วมือส่วนตัวคิดว่าน่าจะไวสุดแล้วของค่าย ณ เวลานี้ พอๆกับ OPPO R9s เลย

ปุ่มด้านล่างมีไฟด้วย ไม่ต้องงมเวลาเล่นมือถือตอนกลางคืน


-โซเชียลมีเดียร์ / ดูหนัง / ฟังเพลง -

ทั้งฟิลลิ่งการทัชที่ดีเอย สเป็คมาแบบจัดเต็มเอย รวมๆกันแล้วการเล่นโซเชียลมีเดียร์ผมให้ 10/10 

ที่เข้าตากรรมการมากที่สุดก็โหมดถนอมสายตานี่แหละครับ อยากให้มีทุกแบรนด์ทุกเครื่องเลยจริงๆ ขนาดเพียว Android เวอร์ชั่น 7.1.2 ใน Nexus ยังไม่มีมาให้เล๊ยย ดูซี๊ OPPO เค้าห่วงใยผู้ใช้ขนาดไหนนน (ช่วงอวยก็มา ฮ่าๆ)

ชอบสุดๆก็ตอนดูหนังนี่แหละครับ จอใหญ่สะใจมากกกกกก ปรับความละเอียด Full HD ปุ๊บ ฟินเลย (ถ้าจะดูนานๆ แนะนำเปิดโหมดถนอมสายตาด้วย) แถมแบตพี่แกอึดอีก สวรรค์คอซีรีย์จริงๆ

Ram 6GB เปิดนู้นนี่นั่นแล้วมันยังเหลือตั้ง 3GB แหนะ ... สลับ App แทบจะไม่ต้องโหลดใหม่เลย

เรื่องของการฟังเพลง ฟังจากลำโพงเพราะมาก เบสนุ่ม มิติเสียงกำลังดี ฟังจากหูฟังส่วนตัวแล้วเสียงกลางไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ ลองปรับจูน EQ นิดหน่อยช่วยตรงนี้ได้อยู่ครับ

- กล้อง -


     เริ่มจากกล้องหน้าก่อนละกัน กล้องหน้า ความละเอียด 16 MP f2.0 โหมดที่ให้มานี่ยกมาจากกล้องหลังทั้งดุ้นเลย แอบตกใจนิดนึงกับโหมด Time-Lapse ที่กล้องหน้าพี่แกก็ถ่ายได้! อะจ๊ากก ให้มาทำไมนิ (เสียงคนใต้) 

     กล้องหน้า โหมดรูปถ่าย สามารถสั่งการได้ 4 แบบ คือถ่ายปกติ , แตะ , เสียง , ท่าทาง ซึ่งจากที่ลองมามันใช้ได้จริงทุกอย่าง โดยเฉพาะเสียงกับท่าทางที่โอกาสติดง่ายกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะมาก ท่าทางนี่ยกมือ 5 นิ้วมาประมาณ 1 วิขึ้นนับเลย โอ้ อันนี้ยอม (แต่ยังไงก็แตะถ่ายเหมือนเดิมอยู่ดี )

     โหมดสวยงามหรือโหมดบิวตี้ เลือกปรับสีหน้าได้ว่าจะเอาปานกลาง หรือแดงสด ด้านล่างก็จะเป็นระดับการเกลี่ยเนียนที่ให้มา 7 ระดับจากที่ลองมาแนะนำสักระดับ 3-4 ก็พอสวย เยอะกว่านั้นมันจะดูหลอกๆเกินไป แถมฟังก์ชั่นหน้าชัดหลังเบลอซึ่งเป็นการเบลอด้วยซอฟแวร์มาให้ด้วยซึ่งจากที่ลองมารู้สึกว่ามันยังไม่เวิร์คนะ ตรงขอบๆตัวบุคคลยังเกลี่ยไม่เนี่ยนพอ ถ้าอยากให้เนียนกว่านี้ก็ต้องรอ OPPO F3 เข้าไทยนู้นแหละ

     พาโนราม่า เฉยๆ ไม่ได้เทพมาก พอใช้งานได้เฉพาะกิจแบบเพื่อนมากันเยอะสัก 10 คนอะไรทำนองนี้ หรือจะเอาไปประยุกต์ทำภาพเซลฟี่แปลกๆก็โอเคนะ

     โหมด VDO ปรับความละเอียดได้สูงสุด Full HD 30fps (ปรับได้ 2 ระดับ คือ HD กับ Full HD ต่ำกว่านั้นไม่มีให้) จากลองเทสมาทั้งแสงน้อย แสงมาก แสงอุสา(เดี๋ยวๆ) พบว่าลื่นปี๊ดทั้งสว่างและมืด สามารถแตะชดเชยแสงได้เลย ติหน่อยตรงวัดแสงกระชากไปหน่อย ถ้าเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างนี่มีตาลายกันบ้าง นอกนั้นโอเค ถือว่าชอบมากครับ

     สุดท้ายโหมด Time-Lapse ที่เกิดมาเพิ่งเคยเจอในกล้องหน้าตัวแรกเลย (ที่เคยได้เล่นมานะ เจ้าอื่นมีมาก่อนหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบจริงๆ) ก็เอาไว้ถ่ายสนุกๆได้ครับ คุณภาพใช้ได้เลย ส่วนจะเอาไปใช้งานอะไรจริงจังนั้น ... ผมเองก็นึกไม่ออกจริงๆ

* ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า (กดที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่) *

โหมดธรรมดา VS โหมดบิวตี้ระดับ 3 (ปรับให้หน้าอมเหลือง)


โหมดธรรมดา VS โหมดบิวตี้ระดับ 3 (ปรับให้หน้าอมชมพู)

โหมดธรรมดา VS โหมดบิวตี้ระดับ 3 (ดูการเกลี่ยผิวหน้า)

กล้องหน้าธรรมดา

กล้องหน้าโหมดบิวตี้ระดับ 2

โหมดธรรมดา VS โหมดบิวตี้ระดับ 3 (ถ่ายภาพในที่แสงน้อย)

โหมดหน้าชัดหลังเบลอ ต้องเปิดโหมดบิวตี้ก่อนถึงจะใช้โหมดนี้ได้ (สังเกตุป้ายกับถังขยะสีเหลืองยังเกลี่ยไม่เนียนมาก)


     ต่อกันด้วยกล้องหลัง 16MP เซ็นเซอร์ Sony ตัวใหม่ "Sony IMX 398" มาพร้อมกันสั่น OIS+ ที่ชูโรงกันมาตั้งแต่เปิดตัวว่ากันสั่นดีกว่า OIS เดิม 40% บร๊ะ!

โหมดการถ่ายรูป มีเด่นๆ 2 โหมดคือโหมด Ultra HD ซึ่ง OPPO ทำตรงนี้มานาน กับโหมดผู้เชี่ยวชาญที่ผมค่อนข้างชอบเป็นพิเศษ

- โหมดโปร 

โหมดผู้เชี่ยวชาญหรือโหมดโปร ถ้าเปิดใช้จะไม่สามารถใช้งานแฟลชได้ ไม่สามารถเลือกอุณภูมิสีที่เป็น K ได้ แต่จะมีรูปแบบสถานการณ์ต่างๆมาให้ ซึ่งถ้าเป็นมือใหม่ โอเคพอรับได้ ถ้าเป็นคนที่ชอบใช้โหมดโปรพอชำนาญ อยากปรับละเอียด คงต้องโหลด App แยกมาลง

ค่ารูรับแสง เลือกได้ตั้งแต่ -3 (มืดมาก) ยัน +3 (สว่างจ้า) 

iso หรือค่าความไวแสง ได้ต่ำสุด 100 และสูงสุด 1600 (ยิ่ง iso เยอะ ภาพก็จะยิ่งเกิด Noise)

สปีดชัตเตอร์ "ต่ำสุด 1 วินาที จนถึงมากสุด 16 วินาที" ... ต่ำสุด 1 วินาทีนั่นหมายความว่าถ้าเกิดจะถ่ายอะไรที่เคลื่อนไหวเร็วๆ ต้องพึ่งโหมด Auto อย่างเดียว ... จบเลย

โฟกัสไกล้สุดประมาณ 3 นิ้วครับ

- โหมด Ultra HD

โหมด Ultra HD คือโหมดที่กล้องจะถ่ายภาพซ้อนกันหลายๆช็อตเพื่อให้ได้ความละเอียดสูงสุด 64MP เหมาะสำหรับใครต้องการจะเอาไปถ่าย Landscape ที่มีขาตั้งกล้องและมีเวลามากพอจะ Set ได้ (ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องก็สามารถเห็นผลได้ แต่ถ้าอยากได้แบบสุดติ่งก็ควรจะมี)

- โหมดสวยงาม / โหมดพาโนราม่า และ โหมด Time-Lapse ก็มีมาให้เช่นกัน

- VDO กล้องหลัง และ กันสั่น OIS+ 

กล้องหลังสามารถปรับความละเอียดสูงสุด 4K 30fps , 1080p 30fps และ 720p 30fps  ในสภาวะแสงปกติ ถือว่าจัดอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก สีสด คอนทราสดี WB ใช้ได้ ยิ่งมีกันสั่น OIS อีก ดีงามพระราม 9 เลย

แต่ถ้าแสงน้อย , แสงไม่สำสม่ำเสอม มืดบ้างสว่างบ้าง "งาน VDO จะหน่วงลงจนสังเกตุได้ (fps ลดลงเยอะมาก) กันสั่น OIS เองก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าหายหน่วงเลย" ต้องรออัพเดทซอฟแวร์มาช่วยแก้ตรงนี้

* ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง (กดที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่) *

โหมด Auto

เปิด HDR เพื่อดึงส่วนมืดออกมา

WB แม่นมาก ไฟในร้านอมเหลืองภาพยังออกมาดูดี ไม่ติดเหลืองมากนัก





กินหลายที่ เพราะอยากเทสกล้องมือถือจริงจริ๊ง




ภาพ Set นี้ถ่ายตอนแสงค่อนข้างน้อย (ห้างไกล้ปิด)


Set อาหารอีสาน ... แซ่บหลายเด้


ภาพถ่ายโหมดบิวตี้จากกล้องหลัง สกรีนโทนสวยมาก ยอมเค้าเลย



ภาพนี้ถ่ายกลางคืนแสงน้อยมาก ยังเอาอยู่




- Game Test -

Game Test อยู่ในรีวิวบนแชนแนล Youtube : GU ZAP จ้า เกมในภาพเล่นได้ลื่นทุกเกม ROV ปรับสุด เปิดไมค์ fps ยังยืนพื้น 30 แทบไม่ลดเลย แรงมาก 


Game Test อยู่ในช่วงกลางๆนะ

- GPS / Sensor -


     GPS นี่ดีงามพระราม 7 สุดๆ ว่องไวกระฉับกระเฉงมาก ให้มาครบทุกสัญชาติไม่มีกั๊ก เข็มทิศก่อนจะใช้งานให้เปิด App เข็มทิศในตัวเครื่องก่อน (เหมือนกับเบิกเนตรให้เข็มทิศมันดีขึ้นประมาณนั้น ลองแล้วดีขึ้นเยอะมาก) แล้วถึงจะเปิด Map นำทาง เข็มทิศจึงจะว่องไวครับ (ไม่งั้นมันจะหนืดๆหน่อย)

Sensor ให้มาครบๆ จบในเครื่องเดียวครับ คุณภาพ Sensor ตามราคาครับ (ไจโรแอบช้านิดๆ)

- แบตเตอรี่และความร้อน -


แบตเตอรี่ให้มา 4000 mAh แบบ Li-Polymer รองรับชาร์จไว VOOC ชาร์จ ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที (ช่วงแรกๆจะไวมาก พอสักประมาณ 80% ขึ้นไปจะเริ่มช้าเพื่อไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไป)

     ความร้อนจากการเล่นโซเชียลกลางๆไม่ร้อนมากแค่พออุ่นๆ จะไปร้อนเอาตอนเล่นเกมนู้นแหละครับ ร้อนในที่นี้คือความร้อนมาไวกว่า Snap 650 652 แต่ไม่ถึงกับร้อนปี๊ดแบบ Snap 810 แลกกับความแรงแล้วคุ้มอยู่ครับ

- คะแนนเทสแอปต่างๆ -

Antutu จัดไป 91,000-93,000 เกือบแตะแสน ... แรงสุดแล้วของแบรนด์ OPPO ณ เวลานี้ 

- สรุป -


     คงประมาณนี้สำหรับการรีวิว OPPO R9s Plus โดยรวมแล้วถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับตัวท็อปของค่ายที่เปิดราคามาค่อนข้างแรงไปหน่อยนึง แต่ถ้ามองมุมของแบรนด์กับสเป็คโดยรวมที่ให้มา ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้

     จุดเด่นคงจะเป็นเรื่องของการเล่นเกมที่สเป็คขนาดนี้คงเล่นได้หมดใน Playstore , หน้าจอที่ใหญ่ดูซีรีย์สบายๆ , ชาร์จไว VOOC ที่ใช้งานได้จริง , และภาพถ่ายจากกล้องหน้าหลังที่ไว้ใจได้ทุกสถานการณ์

     จุดพิจารณาในรีวิวที่เห็นได้ชัดคือเรื่องงาน VDO ตอนกลางคืน ซึ่งจุดนี้น่าจะสาหัสที่สุดแล้วเท่าที่เจอมา ใครที่ใช้งาน VDO กล้องหลังเป็นหลักอาจจะต้องรออัพเดทกันนิดนึง ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะอัพเดทเพิ่มให้หน้าเพจนะครับ