เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆกับเรือธงที่น่าจับตามองมากที่สุดนาทีนี้กับ Samsung Galaxy S7 และ S7 edge รุ่นต่อยอดความสำร็จของ Samsung Galaxy S6 และ S6 edge ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าไปก่อนหน้านี้ การกลับมารอบนี้ มีอะไรดีๆเพิ่มขึ้นมาบ้าง เพิ่มอะไรตรงใหนยังไง จะรุ่งหรือร่วง มาชมกันครับ!
สเปกเจอร์ใหม่และฟีโดยคร่าวๆ
Body , Display
รูปร่างภายนอกคล้ายกันมาก แทบจะไม่ต่างมากจากความรู้สึก ที่เพิ่มขึ้นมาคือน้ำหนัก (เดิม 138g เป็น 152g) โดยยังคงเป็นกระจกและอลูมิเนี่ยมเช่นเคย (เรือธงเป็นพลาสติกคงขายไม่ออก เหอะๆ)
ส่วนที่ดีที่สุดในความคิดผมคือ กล้องที่นูนน้อยมาก (เรียกว่าแทบไม่นูนเลยจะดีกว่า) เป็นสิ่งที่ผมอยากจะเห็นมากที่สุด ณ เวลานี้ของเรือธงค่ายต่างๆที่ทำเครื่องบางๆและกล้องไม่นูน หมดปัญหาคาใจไปได้เปราะหนึ่งเลยทีเดียว
ในส่วนของหน้าจอ ยังคงเป็น 2K เช่นเดิม(ตามที่ samsung และ LG เคยบอกว่าตอนนี้ จอ2K ก็เหลือใช้แล้ว) ความละเอียดและขนาดเท่าเดิม เพิ่มเติมคือฟีเจอร์ใหม่อย่าง Alway-On Display ที่ช่วยในการแจ้งเตือนโดยไม่เปิดหน้าจอขึ้นมาทั้งหมด (คือแจ้งเตือนแต่ใช้พลังงานเท่าหำแมวนั่นเอง)
***อัพเดท แสกนลายนิ้วมือยังมีอยู่นะครับ แต่ทาง Samsung ไม่ได้ชูโรงในตรงนี้ คิดว่าคงเป็นตัวเดิม***
คะแนนส่วน Body : 8/10
CPU , Ram , พื้นที่เก็บข้อมูล
CPU ที่ใช้มีสองรุ่นให้เลือกคือ Quad-core Snapdragon 820 และ CPU Exynos ของทาง Samsung เอง ซึ่งรุ่นที่จะวางขายในไทยจะเป็น Exynos รุ่นอัพเกรดจาก Exynos 7420 Octa-core 2.1 Ghz มาเป็น Exynos 8890 Octa-core 2.3 Ghz ซึ่งต้องรอดูกันยาวๆว่าทำออกมาได้ดีแค่ใหน
Ram เพิ่มมาจากของเดิม 3GB LPDDR4 เป็น 4GB LPDDR4 ถ้าถามว่ามันน่าตกอกตกใจตรงใหนเจ้าอื่นเค้าไป 4GB ตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ก็คงต้องบอกก่อนเลยว่า "ตามทฤษฏีแล้ว" Ram DDR4 จะให้ประสิทธิ์ภาพที่สูงกว่า Ram DDR3 ในความจุเท่ากันประมาณ 50% ดังนั้นรุ่นอื่นแบรนด์อื่นที่ออก 4GB DDR3 ไปก่อนหน้าคิดว่าคะแนน Antutu ในส่วนของ Ram คงโดนทิ้งห่างพอสมควร (ทั้งนี้การใช้งานจริงต้องดูองค์ประกอบอื่นร่วมด้วย)
พื้นที่เก็บข้อมูล มีมาให้เลือก 2 รุ่นคือ 32GB และ 64GB สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้ถึง 200GB! โอ๊วพระสงฆ์ ลูกไม่ได้ตาฝาดไปใช่หม้ายยย (เดี๋ยว พอก่อน กลับมาๆ ) คือต้องบอกก่อนเลยว่า Samsung เค้ารับฟังสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการไปปรับปรุงให้กับรุ่นถัดๆไปได้ดีมาก
อย่าง S5 ที่ขายแทบไม่ออกเพราะเรื่องวัสดุและดีไซน์ Samsung เค้าก็ทำใหม่ S6 ออกมานี่สวยวิ้ง แต่ตัดสล็อต Micro SD Card ออกไป ผู้ใช้ก็เริ่มบ่นเพราะมันจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลอย่างรูปภาพ หรือ ไฟล์งาน มัลติมีเดียร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ กลายเป็นว่า S7 กลับมาผงาดกันอีกรอบเพราะเจ้แกจัดให้ตามคำขอ เป็นอะไรที่ดี๊ดีอะ หนูชอบ
คะแนนในส่วน CPU , Ram , พื้นที่เก็บข้อมูล : 8.5/10
Camera
กล้องหน้าหลังถูกพัฒนาใหม่ให้ F น้อยลงจากเดิม F/1.9 กลายเป็น F/1.7 ทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง กล้องหลังมีกันสั่นจากแผ่นดินไหว 9.6 ริกเตอร์(OIS) เช่นเคย
ไม่ต้องแปลกใจที่กล้องหลังโดนตัดความละเอียดลดลงไปเหลือแค่ 12MP (เท่ากับ iPhone 6s) จากเดิมใน S6 อยู่ที่ 16MP เพราะเพิ่มฟีเจอร์มาคือ Dual Pixel และขนาด Pixel ที่ใหญ่ขึ้นจากเดิม 1.12μm เป็น 1.4μm ทำให้ภาพที่ได้คมชัดและประหยัดเนื้อที่มากขึ้น (ตามทฤษฏีนะ ถ่ายจริงอีกเรื่องนึง)
คะแนนในส่วนของ Camera : 8.5/10
แบตเตอรี่และการชาร์จ
ไม่ต้องสงสัยกันเลยครับว่าความหนาและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาจากอะไร เป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากกินจุ เฮ้ย! เพิ่มแบตเตอรี่ขึ้นมาจากเดิม 2,550 mAh เป็น 3,000 mAh ( S7 edge เพิ่มเป็น 3,600 mAh) เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมแม้ว่าจะแลกมาด้วยความบางและน้ำหนักที่เพิ่มมานิดนึง (ส่วนตัวแล้วรับได้นะ เพราะ S6 นี่ซดแบตเอาเรื่องเลย)
การชาร์จแบตจะเชยและตกยุกมากถ้าเรือธงไม่ให้ชาร์จไว (Fast Charging) มา มีหรือ S7 จะไม่มี จากการเคลมของทาง Samsung มาเนี่ย ชาร์จไวของเค้าเต็ม 100% ใช้เวลาไปทั้งหมด 90 นาที (S7) และ 100 นาที (S7 edge) แถมรอบนี้ชาร์จไร้สายรองรับการชาร์จไวแล้วด้วยนะเออ
คะแนนในส่วนของ แบตเตอรี่และการชาร์จ : 8/10
การเชื่อมต่อ
รอบนี้ Samsung มาแปลกที่เรือธงมี Sim แบบ Hybrid มา (เรียกง่ายๆคือ 2sim พิการ) คือถ้าคุณใส่ Sim 2 คุณก็อดใส่ Micro SD Card เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Hi-End บางคนค่อนข้างชอบเรือธงที่ใส่ได้ Sim เดียวเท่านั้น (เหตุผลหลักผมก็ไม่ทราบ แต่มีคนแบบนี้จริงๆ และมีเยอะด้วย) Samsung เองก็คงเข้าใจในจุดนี้ เลยให้มาแบบ Hybrid ประมาณว่า ไปเลือกกันเอาเอง ฮ่าๆ
อีกอย่างคือ สามารถรับส่งข้อมูลได้ไวกว่าเดิม จากเดิม LTE A-Cat 6 (300/50 Mbit/s) เป็น LTE A-Cat 9 (450/50 Mbit/s) ไวกว่าเดิมพอสมควร ถามว่าบ้านเราได้ใช้ถึงมั๊ย บอกเลย ยากส์! (เติมS ล้านตัวครับทั่นผู้ชม)
*** อัพเดท พอร์ทเชื่อมต่อยังคงเป็น Micro USB (หัวแบบปกติแอนดรอยด์) ไม่ใช่ USB-C แบบเรือธงเจ้าอื่นนะครับ ***
คะแนนในส่วนการเชื่อมต่อ : 7/10
ฟีเจอร์ใหม่
Alway-On Display
เป็นฟีเจอร์ที่ให้เราเห็นการแจ้งเตือนทั้งหมดโดยใช้หน้าจอแค่ส่วนนึง ทำให้ใช้พลังงานไปแค่นี๊ดนึง (เท่าหำแมว)
กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
กลับมาละว้อยยย(ย.ยักษ์ล้านตัว) หลังจากที่โผล่มาใน S5 แล้วหายไปใน S6 ในที่สุดทาง Samsung ก็ทนเสียงแฟนคลับไม่ไหว จัดให้ตามคำขอ ประมาณ "อยากให้กันน้ำมาใช่ไหม! ได้! จัดให้!!! "
โดยทาง Samsung เคลมมาว่ามียางกันน้ำซึ่งอยู่รอบอนูของตัวเรื่อง 360 องศา ไม่มีที่ว่างแม้แต่ 1 ไมครอนให้มันเล็ดลอดเข้าไป ประหนึ่งตู้เซฟ FBI (อันนี้โม้ ฮ่าๆ) สามารถกันน้ำลึก 1.5M ได้นานถึง 30 นาทีเลยทีเดียว บร๊ะ! Sony มีหนาวกันบ้างละงานนี้
Sim แบบ Hybrid
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเป็น 2 sim แบบพิการ เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง sim 2 หรือ Micro SD Card (อารมณ์หล่อเลือกได้)
Fast Charging
ก็คล้ายๆกับแบรนด์อื่น แต่เพิ่มมาหน่อยคือชาร์จไวพี่แกรองรับ ชาร์จแบบไร้สายด้วย หล่อเลย
กล้องหลังที่เพิ่มมากนอกจาก F/1.7 และกันสั่น OIS แล้วทีเด็ดคงจะเป็น Daul Pixel ที่ช่วยในการจับภาพได้ไวขึ้น แถมขนาดพิกเซลก็เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะลดจำนวน Pixel ลงไปเหลือ 12MP ก็ตาม แต่คิดว่าภาพที่ได้คงสุดติ่งกระทิงเปลี่ยว (ไม่งั้นคงใช้ตัวเดิม ฮ่าๆ)
สรุปส่งท้าย : โดยส่วนตัวแล้วถือว่าพอใจกับ Samsung Galaxy S7 พอสมควร พยายามให้สั้นและครบที่สุดแล้ว เอาจริงๆประทับใจตรงที่ Samsung เก็บฟีดแบ็คจากผู้ใช้และพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด ไม่ใช่อินดี้ดันทุรังไปเรื่อย (อันนี้พูดโดยทั่วไป ไม่ติ่งค่ายเด้อ) ทั้งเพิ่ม Micro SD Card กล้องหลังไม่นูน (อันนี้ชอบมาก) และ กันน้ำกันฝุ่น ถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการมากๆ ส่วนกล้องที่เทพและแบตที่เพิ่มมานั้นถือว่าเป็นของแถมไปละกัน สำหรับวันนี้คงต้องลาไปก่อน ไว้เจอกันบทความหน้า สวัสดีครับ!
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : thaimobilecenter , แบไต๋.com , Samsung.com , androidcentral , phonearena , gsmarena