.

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2561

802.11 wifi บนมือถือคืออะไรกัน ?



Wifi นั้นถือเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากๆครับ ซึ่งถ้าให้พูดเลยคือไม่ว่าเราจะไปร้านกาแฟ, ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือแม้กระทั่งห้องน้ำ !!!  บางที่ก็อาจจะได้พบเจอสัญลักษณ์นี้เช่นกันครับ  เราคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า Wifi นั้นมีไว้สำหรับต่อ Internet แทน 3g, 4g ที่เราใช้ๆกันอยู่นั่นเอง  แต่วันนี้เราจะลองมาดูกันครับว่าภายใต้คำว่า Wifi นั้นมีที่กำเนิดมาจากอะไรและการทำงานเป็นอย่างไร

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ free wifi in cafes
Wifi ตามร้านอาหารต่างๆ
ความจริงแล้ว "Wifi" นั้นเป็นชื่อของเครื่องหมายการค้าครับซึ่งเป็นคนจดสิทธิบัตรสำหรับ Technology ที่ใช้ในการส่งถ่ายข้อมูลแบบ Wireless ด้วยคลื่นวิทยุนั่นเอง ซึ่งจริงๆแล้ว Wifi เองนั้นก็มีมาตราฐานที่ใช้ในการออกแบบเช่นกัน ซึ่งมาตราฐานนี้ออกแบบโดยหน่วยงานทางด้านวิศวกรรม Institute of Electrical and Electronics Engineers หรือ IEEE นั่นเองซึ่งชื่อมาตราฐานสำหรับ Wifi คือ 802.11 แต่ว่าก็มีการ พัฒนาเรื่อยๆมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง โดยอุปกรณ์ที่มีสัญลักษณ์ IEEE 802.11 ตามที่กำหนดก็คืออุปกรณ์ที่สามารถรับส่ง ด้วยคุณสมบัติต่างๆได้นั่นเองครับเช่นมือถือเราที่รองรับ Wifi AC ก็แสดงว่าสามารถใช้ และส่งสัญญาณ Internet ได้ตามมาตราฐาน  หรือจะอย่าง Router ที่บ้านเรา ซึ่งจริงๆแล้วทำหน้าที่เป็น Access Point ด้วยหรือก็คือตัวปล่อย Internet ผ่าน Wireless ให้อุปกรณ์ที่รองรับ Wifi ของเราสามารถเชื่อมต่อไปใช้งานได้นั่นเองครับ

ก่อนเราจะไปรู้จักกับ ประเภทของ Wifi เราลองมารู้จักความแตกต่างระหว่างคลื่นกันก่อนดีกว่าครับ

ความถี่ 2.4 Ghz VS 5Ghz ความแตกต่างแบบง่ายๆ


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

คลื่นความถี่ในช่วง 2.4 ถ้าเรามองกันแค่แบบง่ายๆคือจะเห็นว่าตัวเลขเราน้อยกว่าเลข 5 แน่ๆครับ 

2.4 Ghz ลักษณะ

ซึ่งการที่เลขเราน้อยกว่านั้นให้จินตนาการถึงการที่เราเป็นสายนักเวทย์โจมตีหมู่ได้ ปล่อยพลังแบบอ่อนๆออกไปเราไม่เน้นความรุนแรง ที่ปล่อยแต่เน้นความไกล (พูดอย่างกับเกม rpg 5555)   คือสัญญาณจะ Range ลอยไปได้ไกล แต่ว่าข้างในนั้นพลัง Bandwidth จะไม่สูงมากนั่นเองครับ  

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
Mage ปล่อยพลังระยะไกลได้ แต่พลังไม่รุนแรง และมักถูกรบกวนการใช้พลังบ่อยๆ เพราะพลังชนกันเอง

ซึ่ง 2.4 Ghz การทำงานก็เป็นแบบนั้นเลย ซึ่ง จะเห็นว่านักเวทย์นั้น  เวลาที่ใช้สกิลร่ายก็สามารถถูกโจมตีและขัดขวางได้ง่าย นั่นคือค่าของ Interference นั่นเองครับเพระาว่า 2.4 Ghz นั้นมีรัศมีที่ ลอยไปได้ไกล จึงมีโอกาศชนกันเองได้ง่าย หรือทับกันเอง  และ Bandwidth ก็คือพลังที่อยู่ในนั้นก็จะต่ำกว่า 

5Ghz ลักษณะ

เราเปรียบเสมือนเป็นสายนักรบตีแรง เพราะเรามีพลังคลื่นความถี่สูงกว่าทำให้เราสามารถปล่อยคลื่นที่มี Bandwidth ออกมาได้สูง แต่ข้อมเสียก็คือเรา เราต้องโจมตีไปเฉพาะจุด เพราะพลังที่เราอัดมานั้นแน่นเหลือล้น นั่นเองครับทำให้ 5 Ghz นั้น Range ไปได้ใกล้กว่าเพราะเน้นเฉพาะจุด  
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ one punch man attack
รู้จัก 5 Ghz มั้ยยย !!! พลังแรงกว่าแต่ก็ปล่อยเต็มๆไปเลยทีล่ะจุด ไม่เน้นการกระจายคลื่นระยะกว้าง !!!

แต่ว่า Bandwidth คือกำลังของ Internet ในนั้นสามารถส่งได้ปริมาณมากๆ  และเนื่องจากคลื่นเป้นระยะสั้นๆจึงลดโอกาศที่จะถูกทับกันเองด้วยนั่นเอง หรือถูก Interfere แทรกจากคลื่นตัวอื่น

802.11 / 2Mbps

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ถือเป็นมาตราฐาน Wifi ที่สร้างโดย IEEE ในปี 1997 ซึ่งในสมัยนั้นสามารถทำความเร็วสูงสุดไปได้ถึง 2Mbps ซึ่งถ้าเกิดเรามองในยุคนี้เราอาจจะรู้สึกว่าน้อยใช่ไหมครับ แต่ให้ลองนึกกลับไปยุคสมัย Window 98 ที่ใช้ Browser แบบ Netscape ดูเว็บไซต์ Google ก็ยังไม่มี ต้องไปซื้อหนังสือที่จดลิ้งเว็บไซต์มา เพื่อเข้าเว็บ 55555 แล้วเราต้องต่ออินเทอร์เน็ตด้วย modem โดยการนำรหัสจากบัตรขูดไปเติมแล้ววิ่งได้แค่ 56kbps !!! เท่านั้นเอง ซึ่ง 1 Mbps นั้นเท่ากับ 1024 kbps ถ้าอย่างนั้นในยุคสมัยนั้นก็คงจะเร็วมากๆเลยทีเดียว แต่ในปัจจุบันก็ได้เลิกการผลิตไปเรียบร้อยครับ


802.11b / 11Mbps - 2.4GHz

ในช่วงเวลาต่อมาเมื่อปี 1999 ทาง IEEE ได้ทำการคิดค้นมาตราฐานใหม่ขึ้นมาคือ 802.11b ซึ่งสามารถรองรับความเร็วอินเทอร์เน็ตได้ถึง 11 Mbps ซึ่งถึือว่าเทียบเท่ากับความเร็วของเน็ตแบบต่อสาย Ethernet ตามบ้านเลยทีเดียว  โดย 802.11b นั้นจะทำงานอยู่บนย่านความถี่ 2.4 GHz นั่นเองครับ ซึ่งเป็นคลื่นช่วงความถี่ต่ำ ทำให้สามารถกระจายไปได้ไกลนั่นเอง ซึ่งตอนที่ตัวนี้น่าจะเริ่มมานิยมในไทย ก็น่าจะเป็นช่วงตอนที่มี Promotion Internet ของค่ายแดงเห็นจะได้ครับที่มาพร้อมกับความเร็ว 1 Mbps และขยับมา 5 Mbps ตามด้วย 10 Mbps ตามลำดับ ซึ่งตอนนั้นบ้านเราน่าจะสักปรมาณ 10 กว่าปีก่อนเห็นจะได้ก็สามารถใช้อุปกรณ์ Access Point เพื่อกระจายสัญญาณได้เพราะ Bandwidth นั้นยังอยู่ในช่วงนั่นเองครับ


802.11a / 54 Mbps - 5 Ghz

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ router wallpaper

ในขณะช่วงเวลาเดียวกันที่ IEEE ได้ทำการทดลองพัฒนารุ่นสองของ 802.11 ที่เป็นเวอร์ชั่นแรกด้วยเช่นกันแต่มีการเปลี่ยนชื่อมาใช้ใหม่เป็น 802.11a แต่ในช่วงเวลานั้นเอง 802.11b (ตัวข้างบน) นั้นได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเรียบร้อยแล้ว  เนื่องด้วยเพราะอุปกรณ์ที่รองรับ 802.11b ที่มีช่วง Bandwidth ที่ส่งได้ต่ำกว่าคือเพียงแค่ 11 Mbps ถ้าหากเทียบกับตัว 802.11a ที่สามารถทำได้สูงถึง 54Mbps ดังนั้นตลาดสำหรับ Home User ส่วนใหญ่จึงถูกกินเรียบด้วย 802.11b นั่นเองครับ (ลองจินตนาการย้อนกลับไป 10 -15 ปีก่อน ว่าความเร็วเน็ตอนนั้นที่บ้านเราทำได้กันประมาณเท่าไหร่กัน ซึ่งก็คงน้อยคนได้เกิน 11 Mbps เพราะราคาเน็ตคงแพงอือซ่าแน่นอนครับ 5555 )  ดังนั้นตัว 802.11a นั้นที่สามารถสร้างช่วง Bandwidth ให้ใช้ได้สูงสุดถึง 54 Mbps นั้นจะเปลี่ยนมาใช้ คลื่นความถี่ในช่วง 5 Ghz  ซึ่งมีช่วงความที่สูงกว่า 2.4 Ghz จึงทำให้สามารถส่ง Bandwidth ได้มากกว่า ซึ่งข้อเสียก็คือระยะแคบนี่หล่ะครับ

802.11g / 54 Mbps - 2.4 Ghz

แน่นอนครับว่าการพัฒนาของเทคโนโลยีนั้นไม่เคยหยุดยั้งจาก สมัยก่อนถ้าเราอยากจะได้ Bandwidth สูงถึง 54 Mbps ก้ต้องไปใช้ ตัวคลื่น 5 Ghz ใช่ไหมล่ะครับ ?   ดังนั้นเมื่อปี 2002 - 2003 กลุ่มตลาด Wireless lan ได้บูมมากขึ้น จึงมีการพัฒนามาตราฐานใหม่นี้ขึ้นมาทำให้ อุปกรณ์สามารถใช้คลื่น 2.4 Ghz และรองรับความเร็วได้ถึง 54 Mbps และยังสามารถรองรับกับ อุปกรณ์ที่ใช้ 802.11b ที่เป้น 5 Ghz เมื่อข้างต้นได้ด้วย !!! พูดง่ายๆคือ Backward Compatibility นั่นเองครับ   ทำให้เราได้คลื่นช่วงกว้างและแรงมาใช้กัน

802.11n / 300 Mbps - 2.4 Ghz,  5Ghz

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ single band wifi

กว่าจะมาเป็น Wifi N ให้เราได้ใช้กันนั้นก็ถือว่าได้ทิ้งช่วงนานสักพักพอสมควรครับ จากปี 2003 ที่ Wifi G ได้ออกไป ซึ่งก็ใช้เวลาพัฒนานานถึง 6 ปีจนเมื่อปี 2009 ทาง IEEE ก็ได้ออกมาตราฐาน Wifi ใหม่อีกครั้งหนึ่งก็คือ 802.11n ซึ่ง ได้ใช้เทคคนิค MIMO หรือที่เรียกว่า Multiple In - Multiple Out ภาษาบ้านๆเราคือ ทั้งเข้าและ ส่งข้อมูลออกหลายๆทางพร้อมๆกัน (ที่มีหลายๆเสาบน Router ตามบ้าน) ! ซึ่งด้วยเทคนิคนี้เองนั้นทำให้ในปี 2009 (ใกล้ยุคเราแล้วสินะ หลัง Girl-Genneration มานิดหน่อย )   ซึ่งตัว Wifi N นั้นสามารถรองรับทั้งคลื่น 2.4 และ 5 Ghz  (แต่ต้องเลือกสักช่วงคลื่นนะ)  และขนาดของ Bandwidth ที่เรียกว่าทุบสถิติของเก่าทิ้งออกไปเลยก้คือกระโดดไปถึงหลักร้อย คือ Bandwidth สูงถึง 300 Mbps และก็ Backward Compatibility กับ 802.11 b/g เช่นกันครับ

802.11ac / 1.3 Gbps - 2.4 Ghz,  5Ghz

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ 802.11 ac logo

จาก 300 Mbps เมื่อยุคของ Girl Generation ออกมาใหม่ๆก็ผ่านพ้นไปเข้าสู่ยุคของเรา 2010s ก้คือปี 2013 ได้ถือกำเนิด Wifi AC ขึ้นมาซึ่งใช้หลักการต่อยอดจาก MIMO คือมาเป็นระดับ สองช่วงคลื่นความถี่พร้อมๆกันได้ในเวลาเดียวกันคือ 2.4 และ 5 Ghz หรือที่เรียกกันว่า Dual Band นั่นเอง ซึ่งสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 1.3 Gbps !!! (ซึ่งความเร็วระดับนี้ฏ้คือความเร็วที่ทดสอบกันตามห้อง Lab นั่นเองล่ะครับ)  ลองดูวีดีโอประกอบความเข้าใจสั้นๆกันครับ



ซึ่งจะใช้อยู่บน 5Ghz และ สำหรับ 2.4 Ghz จะทำความเร็วได้อยู่ที่ 450 Mbps - 600 Mbps ซึ่งถ้าถามว่า Dual Band บน AC เป็นอย่างไรก็คือ มันจะสามารถ แยกการเลือกได้ว่าถ้าหากอุปกรณ์ของเรารองรับ 5Ghz ก็จะย้ายไปใช้บน 5 Ghz ให้และถ้าไม่รองรับก็ใช้ 2.4 Ghz นั่นเอง ด้วยการแยกช่วง Band นี้ทำให้ สามารถลดปัญหาของการแย่งกันใช้ภายใน NW ของตนเองได้นั่นเอง  

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ wifi ax comparison
กราฟเปรียบเทียบความเร็วจาก Wifi ในช่วงปี 2000s

ซึ่งในช่วงปี 2015 ได้มีการวางแผนที่จะออก Wifi AC Wave 2 ขึ้นมาซึ่งใช้ในการช่วยเรื่องของ MIMO ก็คือจากสมัยก่อนทั้งใน Wifi N และ AC Wave 1 นั้นมี MIMO (พวก 2x2, 4x4 ที่ระบุไว้ในสเปคมือถือนั่นเองครับ) หมายถึงที่ตัวอุปกรณ์เราสามารถโอนถ่ายได้ทั้ง input และ output ในเวลาเดียวกัน ซึ่ง ข้อจำกัดสมัยก่อนคือตัวคนส่งที่ทำ MIMO นั้นทำได้แค่อุปกรณ์ที่ล่ะเครื่องเท่านั้น แล้วใช้หลักการสลับการใช้เอา ซึ่งก็ทำให้อาจจะได้แค่เฉลี่ยๆกันใช้นั่นเอง แต่ปัจจุบัน Wave 2 สามารถทำ Multi User ได้ในเวลาเดียวกันเช่นกันครับ ทำให้ไม่เสียเรื่องประสิทธิภาพไปนั่นเอง  ซึ่งปัจจุบัน Wave 2 นั้นจะรองรับอยู่ที่ 4x4


home-networking-MUMIMO


ตัวอย่างของ Spec Xiaomi MIX 2 ครับ

COMMSWLANWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot
Bluetooth5.0, A2DP, LE
GPSYes, with A-GPS, GLONASS, BDS
NFCYes
RadioNo
USBType-C 1.0 reversible connector



และเราก็มาถึงตัวสุดท้ายกันแล้วครับที่ดรียกได้ว่าเป็นตัวล่าสุดในวงการนี้เลย

802.11ax / 1.3 Gbps - 2.4 Ghz,  5Ghz

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ qualcomm wifi ax
Qualcomm ผู้นำทางด้าน Network, Telecom ได้เปิดตัว AX เพื่อไปแข่งกับ Intel, Huawei นับว่าการแข่งขันดุเดือด
ทั้ง Wifi AC Wave 2 ที่พึ่งออกที่สามารถทำเรื่องของ Multi-User บน MIMO ได้แล้วทำให้เราได้เรื่องของประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น แต่กระนั้นข้อจำกัดก็คือรองรับสูงสุดที่ 4x4 ทำให้พอพัฒนาเข้ามาใน AX เราได้คูรเข้าไปอีกสองเท่าคือไปถึง 8x8 MIMO ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูงมากๆ จนเรียกได้ว่า  สาย Cable สาย Lan ต่างๆนั้นอาจจะไม่มีผลกระทบใดๆเลยถ้าหากเปลี่ยนมาใช้ Wireless แทนการทำงานดว้ยสาย Lan นั่นเองครับ  และนั่นก็คงเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมปัจจุบันการเติบโตของตลาดมือถือถึงไปได้รวดเร็วมาก
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ 802.11 ac vs 802.11 ax
ภาพกราฟเปรียบเทียบความเร็วจาก Wifi ทุก Generation ที่เคยออกมาจนถึง AX
สำหรับ MIMO บน AX ยังเพิ่มคุณสมบัติเรื่องของของโอนถ่ายข้อมูลแบบ Full Duplex อีกด้วยจากเดิมที่ MIMO นั้นใช้งานสำหรับขา Download เท่านั้น แต่ตัว AX ได้ทำให้รองรับสำหรับขา Upload ด้วยเช่นกัน  และยังมีเรื่องของเทคนิคการประหยัดพลังงานเพิ่มเติมคือ Target Wake Time  ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการจัดการช่วงของ ตารางในการโอนถ่ายสัญญาณข้อมูลซึ่งจะมีการตั้งเวลาเอาไว้และ จะช่วยลดปัญหาเรื่องของสัญญาณตีกันในระหว่างบริเวณได้อีกด้วย เพราะจากสมัยก่อน ถ้าเราอยู่บริเวณที่มี Wifi เยอะๆก็จะเกิดปัญหาสัญญาณรบกวนกัน ดังนั้นด้วยเทคนิคการจัดการตารางการปล่อยสัญญาณจึงลดปัญหานี้ได้อีกด้วย และช่วยประหยัดแบตเตอรี่บนมือถือ Smartphone อีกด้วยครับ


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ evolution of wifi
Generation ของ Wifi !
วันนี้ก็หวังว่าจะเข้าใจเรื่องของ Wifi กันมากขึ้นนะครับครั้งหน้าจะเป็นอะไรไว้มาเจอกันครับสวัสดีครับ


อ้างอิง