.

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

รีวิวสายชาร์จ 2 IN 1 ที่สะดวกมากๆ และไม่แพงเพียง 129.- เท่านั้น


รีวิวสายชาร์จ 2 IN 1 ในเส้นเดียว ไม่ต้องถอด หรือประกอบส่วนไหนแต่มันมาให้แค่เส้นเดียว

ครั้งแรกที่เห็นแพคเกจจิ้งคิดในใจว่านี่มันสายอะไร ทำไมไม่สวยเอาซะเลย แล้วก็ไม่ได้รู้ด้วยว่ามันเป็นสายชาร์จ 2 หัวในร่างเดียวกัน ซึ่งพอเห็นว่ามันเป็นเส้นเดียวก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่ามันจะชาร์จได้ทั้งสองระบบยังไง ยังไงไปดูรีวิวกัน

แกะกล่อง
ตัวกล่องมีแค่สายชาร์จ 2 In 1 เท่านั้นนะ
อ่อ แล้ว Asaki ตัวนี้ยังมีขายสองสีด้วยกันสีน้ำตาลแดง ๆ จริงๆ หรือมันเป็นสีแดงหรืออย่างไรมิทราบ แต่ว่ามันเป็นสีน้ำตาลนะ เหมือนหนังสีน้ำตาลหนะแหละ สายสีน้ำตาลและตะเข็บแดง


วางขายด้วยกัน 2 สี คือสายสีฟ้าตะเข็บแดง และสายสีน้ำตาล (สีเหมือนหนัง) ตะเข็บแดง

สเปคของนาง

ไม่มีอะไรมากก็บอกว่าทำอะไรได้ ความยาวเท่าไหร่ (ความยาว 100 เซนติเมตร เท่ากับสายชาร์จมาตราฐานทั่วไป )

ข้างกล่องระบุชัดเจนว่าเจ้านี่สามารถใช้ได้ทั้งสองระบบแค่ " พลิก "


ตัวของหัวชาร์จจะเป็นลักษณะดังภาพ มองผิวเผินไม่น่าจะชาร์จแอนดรอยได้นะ
จริงๆ ผมมีอยู่เส้นนึงไม่รู้ใครซื้อมาที่บ้าน ก็คิดว่าหัวมันแปลกมาก จะแออนดรอยก็ไม่แอนดรอย จะ ios ก็ไม่ ios แต่คิดว่าชาร์จ ios ได้อย่างเดียว ตัวของหัวจะสกรีนทั้งสองด้าน คือเป็นตัวหนังสือ


พอมาเห็นเขาส่งมาบอกว่ามันเป็นสายชาร์จ 2 ใน 1 เออ ทำมาแปลกดีแหะ
ลักษณะอย่างที่บอก มันดูเหมือนสายชาร์จ Lightning ไม่มีเค้าโครงจะเป็นสายชาร์จ Android แต่อย่างใด
ตัวของหัวแข็งแรงดี ใครเคยใช้สายชาร์จ iOS ยังไง มันดูแข็งแรงแบบนั้นแหละ


มาดูตัวของสายนิดนึง สายมีความยาว 100 CM ก็ทั่วไปของสายชาร์จมาตราฐาน ทำมาจากวัสดุ
ฟิลลิ่งการจับเส้น ก็เหมือนกับจับหนังหนะแหละ หนังแบบผสมพลาสติก มันดูไม่ค่อยแพงนะ ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่


ผมว่าของโดยเฉพาะสายส่วนตัวผมไม่ชอบเอาเลยจริง ๆ ทั้งสองสีนั่นแหละ แต่งานเย็บเนี๊ยบมาก ๆ อันนี้ขอชื่นชม

วิธีการเสียบใช้งานอย่างถูกต้อง !!!
จริง ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่อยากให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเสียบใช้งานของหัวชาร์จ Asaki A2004 กันหน่อย เพราะว่าบางคนจับได้ก็เสียบอย่างเดียว มันจะมีด้านของการเสียบไว้ให้อยู่นะครับ
หรือดูง่ายๆ เลยคือถ้าเราจะเสียบ iOS ให้เราหันหัวชาร์จที่มีสกรีน Made For iOS ขึ้นแค่นั้น บางคนเห็นว่ามันเสียบได้สองด้าน OK มันเสียบ iOS ได้สองด้าน แต่ด้านที่ถูกต้องตามภาพด้านล่างเด้อ


เสียบแล้วจะเป็นลักษณะนี้นะ เสียบแบบถูกต้อง กระแสไฟเข้าได้ดี และลดอาการสึกหรอ ชำรุดในอนาคต


ส่วนแอนดรอยเอาง่าย ๆ ว่าจะมีรูเสียบที่เป็นแบบคว่ำกับหงาย ง่าย ๆ ว่าเสียบเข้าแบบไหนก็เข้าเลย เพราะว่ามันดูง่าย ไม่เข้าคือไม่เข้า ในภาพด้านบนคือตูดชาร์จแบบคว่ำมันจะเสียบด้านตัวหนังสือ iOS ขึ้น


และนี่คือรูชาร์จ Android แบบหงาย ซึ่งจะมีในสมาร์ทโฟนพวก Samsung Sony HTC หรืออินเตอร์แบรนด์ทั้งหลาย ทาง Asaki ก็เลยสกรีนเอาไว้ด้านหงายนะครับ 

เอาง่าย ๆ สุดเลยนะ งั่นแอนดรอยเสียบเข้าก็คือชาร์จ เพราะถ้าเราเอาคว่ำเสียบหงายมันก็ไม่เข้า ง่าย ๆ เลย ไม่เหมือน iOS ที่จะเสียบเข้าผิดด้านเพราะมันเข้าได้ทั้งสองด้านนั่นเอง

มาดูการใช้งานกันบ้าง

สิ่งที่ชอบ
มันสะดวกดี ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบพกสายชาร์จหลายๆ สาย ใช้ทั้ง iOS และแอนดรอย ทั้งพกทั้งสองสายใส่กระเป๋าคาดเอว แล้วต้องซื้อทั้งสองอัน อันนี้ผมว่ามัน OK พกไปสายเดียวไม่ยุ่งเหยิง แล้วก็สะดวกอย่างมาก

แบ่งปันเพื่อนใช้ได้งาน เผื่อเพื่อนใช้ iOS หรือ แอนดรอย เวลาไปนั่งกินข้าวริมทะเลนี่ชอบลืมและยืมกันประจำ

เอาไว้ในรถก็ดีนะ เพราะว่าในรถผมมีทั้ง iOS และแอนดรอย ต้องเสียบกันคนละรู แล้วก็ต้องว่างสำหรับแท่นชาร์จนาฬิกาอีกแท่น แต่ที่ชาร์จในรถมันมีสองรู บางทีมีรูเดียวแบบนี้ ไม่ทนถอดเข้าถอดออก สายใช้ตอบโจทย์ได้ แล้วในรถก็ไม่รกด้วย หลายสาย หลายเครื่อง หลายคนพันกันไปหมด

อันนี้คือสิ่งที่ชอบนะ ซึ่งผมเป็นคนชอบความสะดวกแล้วอะไรที่มันไม่รุงรังตัวนี้ตอบโจทย์ได้
ซื้อมาสายเดียว ได้ทั้งสองแบบ ทั้ง iOS และแอนดรอย ในราคา 129.-
เฉลี่ยแล้วตกระบบปฎิบัติการละ 64.5 บาท ซึ่งมันสะดวกนะ
ต้องดูเป็นขั้นเป็นตอนนะ เพราะสายนี้มันสะดวก และมันเผื่อในหลายสถานการณ์ได้
อย่างร้านซ่อมรถ ผมนี่ชอบลืมสายไปประจำ แล้วต้องซ่อมรถนาน ที่ร้านก็จะมีแต่แอนดรอย ถ้ามีสายนี้แต่แรกก็จบใช้ด้วยกันได้ นี่คือความสะดวก


การใช้งาน จากการที่เคยซื้อมาหลายต่อหลายตัวของเซเว่น ของ Asaki หรือแบรนด์อื่นๆ พบว่าในเจนใหม่ ๆ ที่ได้พัฒนามา เรื่องของคุณภาพดีขึ้นนะ (ก็แน่นอนหนะสิ ) เพราะว่าคนบ่นมาเยอะ แบรนด์อื่นบ้าง Asaki บ้าง และทำให้ผมได้ประทับใจตัวล่าสุดที่ทาง Asaki ส่งมาก็คงเป็นสายชาร์จตัวแพค 4 ชิ้น 199.- ที่ผมมองว่ามันคุ้มมากตัวนั้น แบ่งออกแค่ตัวละ 50 บาทเอง เราไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปซื้อ ประหยัดเวลา แถมมีประกัน
แล้วยังให้ประสิทธิภาพ ที่ OK เลย กระแสไฟไม่แกว่งเหมือนสายชาร์จถูกๆ แล้วเอาไปขายแพงกัน

ส่วนตัวนี้ในหัวคิดไว้แบบนั้นแหละ แต่เรื่องความคงทน ต้องบอกตามตรงว่าไม่เคยใช้แบบนี้ที่มี 2 หัวในเส้นเดียวแถมไม่ต้องประกอบอะไร ไม่เคยใช้แบบระยะยาวซักที อันนี้คงต้องไปเทสกันเองแล้วหละ


สายแท้ + ที่ชาร์จแท้

สาย Asaki-A2004 + ที่ชาร์จแท้

ผมให้ดูตามรูปเลยครับว่าเป็นอย่างไร ใช้แอพ Ampare ในการวัดกระแสไฟเข้า และความนิ่งเสถียร เพราะปกติจะใช้แอพนี้ประจำมันก็ใช้ได้และค่อนข้างแม่นยำครับ นอกจากใช้ตัว USB วัดกระแสไฟแล้วหละก็นะ

กระแสไฟที่เข้านั้นน้อยกว่าสายแท้แน่นอน (ในเรื่องของการชาร์จเร็วที่ต้องใช้สายกับเต้าชาร์จเฉพาะ ) ถ้าให้เทียบเท่าของแท้นั้นคงไม่ได้ แต่ว่ามันก็ดีมากแล้วเมื่อเทียบกับสายชาร์จในท้องตลาด ที่สำคัญหาซื้อง่าย มีประกัน เดินไปเซเว่นหน้าบ้านก็ซื้อได้เลย แก้ปัญหาได้รวดเร็ว

บางคนชอบเอาเทียบกับสายชาร์จหลาย ๆ แบบที่สั่งในเน็ต แล้วใส่ส่วนลดนั่นนี่ เยอะแยะ ทำให้ได้สายชาร์จคุ้ม แต่นี่เราพูดถึงวงกว้าง คนทั่วไปที่ใช้ด่วน หรือต้องการซื้อเดี๋ยวนั้น ดีกว่ามั้ยที่ไม่ต้องเดินเข้าห้าง ไม่ต้องไปเดินหา เพราะในเซเว่นมี หน้าบ้านยังมีเซเว่นเลยมั้ง

สายออกแบบมาสะดวก แถมซื้อสะดวกด้วย ก็ตามนั้น ไปจัดกันได้

การใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้เน้นชาร์จเร็วกับสายเฉพาะ
อันนี้ต้องบอกว่าทำได้ในเกณฑ์ดีเลย หากเราใช้มือถือที่ไม่ได้ชาร์จเร็วเช่น iPhone หรือ Android ที่ชาร์จปกติ เช่น 5V 2A สามารถชาร์จไฟได้สเถียรและนิ่ง ไฟเข้าดี กระแสดีเลยครับเหมือนสายแท้เลย

ในภาพทดสอบกับการชาร์จในรถ ซึ่งมันสะดวกมาก ซื้อใช้เลยนะรุ่นนี้เพราะว่ามันไม่กินรูเสียบกัน

ปิดท้าย เนื่องด้วยตัวหัวชาร์จของ Asaki A2004 นั้นทำมาเสียบได้ทั้งสองระบบ ฉนั้นการทำเขี้ยวที่ใช้ล็อคระบบแอนดรอยไม่สามารถทำให้เขี้ยวใหญ่ได้เพราะอาจจะมีผลกระทบต่อการเสียบของฝั่ง iOS มันจึงทำให้สายชาร์จรุ่นนี้ไม่ได้ล็อคตัวตูดชาร์จแน่นเท่าที่ควร ถ้าเราเสียบชาร์จและวางไว้ปกติ ไม่เกิดปัญหาครับ แต่หากเสียบห้อยหัว หรือในสถานการณ์ที่สั่น อาจทำให้สายชาร์จหลุดออกจากตัวเครื่องได้
เช่นการชาร์จบนมอเตอร์ไซค์อะไรประมาณนี้แหละ


มันจะโคลงเคลงแบบนี้ เรียกได้ว่าสะกิดออกแรงหน่อยก็หลุด


ส่วนของการเสียบระบบ iOS นั้นไม่มีปัญหาครับ แน่นเปี๊ยะ
ลคุณภาพการใช้งานระยะยาว ผมไม่สามารถมานั่งใช้เป็นปีหรือเป็นเดือนให้ได้ แล้วค่อยมารีวิว ผมใช้อาทิตย์เดียว เพราะฉนั้นไม่ต้องก่อดราม่าว่าของทนไม่ทน
ของมีประกัน พังก็เปลี่ยนแค่นั้น ราคาเพียง 129.-

ข้อดี
  • หาซื้อง่ายมาก เพราะมีขายตามเซเว่นหน้าบ้านของท่าน
  • ประสิทธิภาพดี
  • สายออกมาแบบมาสะดวก
  • พกพาสะดวก
  • พกเส้นเดียวไม่ต้องรุงรัง แบ่งปันคนอื่นได้ในหลายกรณ์
ข้อพิจารณาสำหรับผม
  • การออกแบบไม่สวย
  • ตัวสายที่เป็น PU ผมไม่ค่อยชอบสี และตะเข็บเท่าไหร่ ความคิดของผมนะ คนเราชอบไม่เหมือนกัน ผมรีวิว นี่คือรสนิยมของผม
  • การเสียบใช้งานของ Android ยังไม่แน่นเท่าไหร่