.

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รีวิว Samsung Galaxy Note 7 จากความรู้สึกก้นบึ้งของหัวใจ



     กราบบบสวัสดีพี่ป้าน้าอา แม่สาวหน้ามนทุกคน วันนี้เรามีโอกาสได้ลองเล่นสมาร์ทโฟนที่เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปที่สุดแล้วของทาง Samsung อัดแน่นมาด้วยฟีเจอร์และไม้ตายที่พร้อมจะฆ่าทุกแบรนด์ที่ขวางหน้าเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่ตังในกระเป๋าของคนที่ตั้งหน้าตั้งตารออยู่ ใครที่รอเรารีวิวอยู่ จัดเต็มแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วว ลุยยย!!!

สเปคคร่าวๆ หาได้ตามกูเกิล

CPU : Exynos 8890 Octar Core 2.3 Ghz
GPU : Adreno 530 Mali T880 MP12
DISPLAY : Super AMOLED 5.7" 2K 1440p ( 78% Screen to body ratio) 
OS : Android 6.0 Marshmallow (Up to Android 7.0)
RAM : 4GB LPDDR4
ROM : 64GB + Micro SD Card 256GB
SIM : 2 SIM Hybrid LTE CAT9
CAMERA : Font 5MP f1.7 VDO 4K , Real 12MP f1.7 VDO 4K
BATTERY : Li-Po 3,500 mAh + QC 3.0 ( 100% in 100 min)
FEATURE : Iris Scanner , Finger Print , S Pen

ราคาเปิดตัวที่ไทยอยู่ที่ 28,900 บาท เริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 5 - 12 สิงหาคม 2559 รับเครื่องหลังจากจองราวๆ 2 อาทิตย์


วัสดุรอบตัวเครื่อง

เริ่มจากบอดี้กันก่อน เป็นอะลูมิเนียมผสมไวเบรเนี่ยมเกรดเดียวกับโล่กัปตันเมกา (หือ?)

มีให้เลือก 4 สี เพิ่มมาสีนึงจาก Galaxy S7 คือสี Blue (สีน้ำเงินฟ้าๆ แต่ไม่มีเครื่องให้ถ่าย อดไป)

 ด้านหน้าและด้านหลังเป็นกระจกกอลิลาเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง Gorilla glass 5 ป้องกันรอยขีดข่วนแม้จะยิง RPG ถล่มใส่ก็ตาม ฮ่าๆ  แต่ไม่กันรอยนิ้วมือสักกะที (= =')

หรูหราฟู่ฟ่ากันเลยทีเดียว 

 ปุ่มกดเป็นอะลูมิเนียม หนึดในความพอดี (อารมณ์ S7 เลย ดีกว่า S6 Edge พอสมควร)

จับถนัดมือมาก บางเบาสมราคาคุย

 ฟิลลิ่งการจับให้ 10/10 เลย ดีโคตรๆ ไม่เขื่องมือแบบ S6 เลยสักกะตี๊ด แถมหน้าจอ 5.7" นี่ดูเหมือนจะเล็กกว่า Galaxy Note 4-5 ด้วยซ้ำไป (สังเกตุได้ทันทีแม้ไม่มีเครื่องวางเทียบ คือเล็กมากๆ)

 ด้านขวามือไม่มีอะไรมาก ปุ่มพาวเวอร์อย่างเดียวโล่งๆ

ด้วยความที่จอมันโค้ง (ไม่ใช่แค่กระจก) เลยให้ฟิลลิ่งกึ่งๆ Edge นิดหน่อย แถมใช้ฟังก์ชั่นของ Edge ได้อีกตังหาก อุ๊บ๊ะ!

 ด้านบนเป็นช่องใส่ซิมแบบ "ไฮบริต" คือ เลือกเอาว่าจะใส่ SIM 2 หรือ SD Card (ได้สูงสุด 256 GB) ถัดมานิดนึงก็จะเป็นรูไมค์ตัดเสียงรบกวน

 ด้านล่างจะเป็นขีดเสาสัญญาณ , ช่องเสียบแจ็ค 3.5 mm , USB Type C ,ไมค์ , ลำโพง และ S Pen ตัวใหม่

โดย Galaxy Note 7 เป็นตัวแรกของค่าย Samsung ที่มาพร้อมกับ USB Type C

 กล้องหลังดีไซน์คล้ายๆกับ S7 นูนน้อยมากๆ มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและไฟแฟลช
อยู่แทบจะตำแหน่งเดียวกันกับ S7

     โดยกล้องตัวใหม่ ยังคงฟีเจอร์เดิมๆไว้หมด เพิ่มมาคืออัพเกรดรูรับแสงจาก  f1.9 เปลี่ยนเป็น f1.7 แทน อุ๊บ๊ะ!

      ด้านหน้ากันบ้าง ไล่มาเป็นเซ็นเซอร์แสกนม่านตาตัวใหม่กิ้งๆ ต๊ะติงนองนอย , ลำโพงสนทนา และกล้องหน้าเรียงกันไป

     โดยกล้องหน้าใช้ตัวเดิมของ S7 คือ ความละอียด 5MP f1.7 ภาพที่ได้ดีกว่าเดิมเยอะ ปกติแล้วคาแร็คเตอร์กล้องของ S6 - S7 จะออกแนวตุ่นๆสีหม่นๆหน่อยนึง แต่ตัวนี้กล้องภาพคมกว่า ถ่ายหน้าสวยกว่าเดิมดูไม่ตุ่นๆ แฟร์นี่ไม่ได้กินเลย (คิดว่าเป็นซอฟแวร์ใหม่)

มีความโค้งมนแรงกล้า จับถนัดมือมากๆ (หาฟิล์มติดทีแทบพลิกแผ่นดิน)

หน้าจอและโฮมสกรีน

     หน้าจอยังคงความละเอียดเดิม คือ 2K และไม่มีวี่แววจะเปลี่ยนเป็น 4K แต่อย่างใด

     ไอคอนเปลี่ยนใหม่ยกแผง ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ สี icon ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด (ส่วนตัวชอบเข้มๆแบบเมื่อก่อนมากกว่า) เดาว่าคงจะออกแบบมาให้ถนอมสายตาผู้ใช้งานมากที่สุด


     ในส่วนของหน้าการตั้งค่า เปลี่ยนหน้าตาใหม่ไปเยอะจนเข้าไปตั้งค่านู่นนี่ลำบาก ต้องใช้เวลาในการปรับตัวสักนิดนึง (ถ้าเปลี่ยนจาก iPhone มาก็เฉยๆ เพราะยังไงก็เริ่มนับ 1 ใหม่อยู่แล้ว อิอิ)


     หน้าจอเป็นเทคโนโลยีใหม่ คือจอโค้ง + กระจกโค้ง อารมณ์โค้งแบบกึ่งๆตระกูล Edge นิดๆ แต่ไม่ถึงขนาดนั้น ที่เจ๋งคือสามารถใช้ฟังก์ชั่นของ Edge ได้เฉยเลย ดีงามจริงๆ ถ้าใครชอบติดฟิล์มแล้วคงต้องดิ้นรนกันนิดนึง

ฟีเจอร์ใหม่ๆ

- Iris Scanner (ปลดล็อคโดยการแสกนม่านตา)


     ตอนแรกที่มีข่าวออกมาว่า Galaxy Note 7 จะมีฟังก์ชั่นนี้ก็แอบหวั่นๆว่าจะไปรอดหรือเปล่าน๊อ ใส่มาให้พอเป็นพิธีรึเปล่า เอาเข้าจริงๆ โคตรๆๆๆๆๆๆของโคตรๆเทพอีกทีนึง เพราะพี่แกเล่นปลดล็อคด้วยอินฟาเรด ดึกดื่นเที่ยงคืนฝืนกายแค่ยังไงก็ปลดได้ (ดูได้ในคลิปรีวิว มืดๆก็ปลดล็อคได้ เต๊บ!!!)

ความแม่นยำในการปลดล็อค ตีไปสัก 90% เลย แทบไม่พลาด ความไว ไม่เกิน 1 วินาที (ดูได้ในคลิป กล้องไม่ทันจับโฟกัสติด จนต้องรีรันไป 3-4 รอบ)

อุปสรรค์ในการปลดล็อคหน้าจอมีอยู่อย่างเดียวคือ การใส่แว่นตา คอนแท็กเลนซ์หรือบิ๊กอาย อาจจะทำให้เซ็นเซอร์ทำงานผิดพลาดได้ (แต่จากที่ลองตอนใส่คอนแท็กซ์เลนซ์แบบใสก็ปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร)

- กันน้ำตามมาตรฐาน IP68 


     กันน้ำได้แล้วววววว ใครที่รอตระกูล Note ที่กันน้ำได้แบบ Galaxy S7 งานนี้เฮได้แล้วจ้า เพราะพี่แกกันน้ำตามมาตรฐาน IP68 โดยจะสามารถแช่น้ำลึก 1.5 เมตรได้นานถึง 30 นาทีโดยไม่จำเป็นต้องใส่จุกยางปิดนู่นนี่ให้ยุ่งยาก และจากที่ลองมา ดึงปากกาออกก็สามารถกันน้ำได้ ไม่มีปัญหาอะไร

- S Pen ที่พัฒนาขึ้น เขียนใต้น้ำได้


     ฟีเจอร์นี่จำเป็นมากมั้ย บอกเลยว่า "ไม่ขนาดนั้น" เพราะในน้ำความไวในการเคลื่อนไหวของข้อมือเราโดนจำกัดด้วยแรงต้านของน้ำอยู่แล้ว แถมจอทัชสกีนมักจะแตะไปเองเวลาอยู่ใต้น้ำ (ใช้ S7 ถ่ายรูปใต้น้ำก็เป็นแบบเดียวกัน)


     อีกนัยยะหนึ่งฟีเจอร์คือออกแบบมาเพื่อการ "ใช้ S Pen กลางสายฝน" คนที่จำเป็นต้องใช้มีเยอะมาก ยกตัวอย่าง วิศวกรหรือสถาปนิก ที่ออกไซด์งาน ต้องสเกตหน้างานส่งเดี๋ยวนั้นก็สามารถทำงานได้แม้ฝนจะตกอยู่ก็ตาม


     อีกอย่างคือ S Pen ถูกพัฒนาขึ้นทั้งตัวซอฟแวร์และตัวฮาร์ดแวร์เอง โดยทางเทคนิกแล้วปากกาตัวใหม่ สามารถรองรับแรงกดได้ถึง 4096 ระดับ ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว แทบไม่ต่างกับ Note 5 จนสังเกตุได้  ซึ่งถ้าหากใครเอาไปสเก็ตภาพแบบละเอียดคงจะเห็นความต่างกันบ้าง

     และจากเดิมแอปของ S Pen ที่ติดมากับเครื่องจะมีราวๆ 3-4 แอป มารอบนี้แอปทั้งหมดถูกรวมกันไว้เป็นแอปเดียว ไม่รกหน้าจอ ดีงามพระราม 8

     ทีเด็ดเล็กๆก็คงจะเป็นการใช้ S Pen ในการแปลภาษา โดยการเอาหัวปากกาไปเลือกโหมดแล้วจี้ที่คำๆนั้น สักพักจะขึ้นมาให้เลือกว่าจะแปลจากภาษาอะไรเป็นภาษาอะไร (ต้องต่ออินเตอร์เน็ตนะถึงจะใช้งานได้) โดยตอนนี้รองรับภาษาหลักๆแทบจะทั่วโลกแล้ว

กล้องและงาน VDO


       กล้องหน้า - หลังยังคงความละเอียดไว้เท่ากับ Galaxy S7 คือ 5MP  f 1.7 (คิดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกัน) ซึ่งจากที่ลองมา กล้องหน้าดีกว่าเดิมพอสมควร คือถ้าเอา S7 มาเทียบจะเห็นได้เลยว่าภาพใสเคลียกว่าเดิมจนรู้สึกได้ สีสันสดใจกว่าเดิมเยอะ (แบบเก่าจะตุ่นๆนิดนึง)

เจ้แพมเซลฟี่กับเหล่าบล็อกเกอร์

กล้องหน้าชัดกว่าเดิมเยอะ ชอบเลย เก็บวิวได้ดี

ตอนนี้กล้องไม่ตุ่นแล้วนะ หน้าสดกำลังดี ดูอ่อนวัยไป 10 ปีเป็นอย่างน้อย


        กล้องหลัง แม้รูรับแสงเท่าเดิมคือ f 1.7 แบบกล้องหน้า แต่ความรู้สึกจากการลองถ่ายเทียบกับ S7 แล้ว ดีขึ้นกว่าเดิม Shapen หรือเรียกง่ายๆว่าเงาขึ้นขอบดีกว่าเดิม ( S7 นี่ซูมไปเป้นเส้นๆเลย)
เทียบกับกล้องหลังของ S7 ที่มี Shapen ค่อนข้างเยอะ คือเยอะจนเกินไป เมื่อซูมไปจะเห็นเส้นขอบๆ ทำให้เวลาแต่งภาพจะแก้ยากมาก ใน Galaxy Note 7 ได้มีการปรับปรุงในส่วนนี้ไป ภาพที่ได้กำลังพอดี


      แต่ถ้าเกิดเป็นผู้ใช้ทั่วไป ไม่ได้ซูมอะไรขนาดนั้น ถ่ายลงโซเชียล Facebook IG แค่นั้น แทบจะไม่ต่างกันเลย

        งาน VDO ไม่ต้องสืบ Samsung กับ Sony เป็นแบรนด์ที่งาน VDO จัดว่าเยี่ยมอยู่ในอันดับต้นๆของสมาร์ทโฟนในตลาด 

     Galaxy Note 7 เองก็สามารถบันทึกได้สูงสุด 4K เช่นเดียวกับ Galaxy S7 เก็บเสียง แสง ได้สุดติ่ง เฟรมเรทไม่มีตกอีกตังหาก เอาไปใช้ทำงานทำการได้เลยจริงๆ

ถ่ายภาพกลางคืน วัดใจ f 1.7 กัน

Crop 100%

ป้ายโฆษณา ซูมดู Shapen แล้วดีมาก ไม่เป็นเส้นๆ

Crop 100%


 ความแรงและการเล่นเกม


     เนื่องด้วยเวลาจำกัดในการที่จะอยู่เล่นกับเจ้า Galaxy Note 7 ดังนั้นจะขอใช้คะแนน Antutu มาอ้างอิงนิ๊ดนึง (โหลดเกมมาเล่นไม่ทันจริงๆ T T )


     คะแนนที่ได้ถือว่าตอนนี้ Galaxy Note 7 แทบจะแตะเพดานของคะแนน Antutu กันเลยทีเดียว (ติด 1 ใน 5 ของคะแนนเทส อาจจะรีดคะแนนได้มากกว่านี้นิดหน่อยถ้ารีเครื่องก่อน)

คะแนน Antutu 134,000 นิดๆ พอๆกับ S7

     แม้คะแนนจะบอกถึงการใช้งานจริงได้ไม่เต็ม 100% ก็ตามที แต่ส่วนตัวคิดว่าระดับตัวท็อปยานแม่ของค่ายแล้ว เกมที่มีอยู่ใน Play Store คิดว่าคงไม่มีปัญหาใดๆ ลื่นปี๊ดๆ

 แบตเตอรี่และความร้อน


     แบตเตอรี่ของตระกูล Note นี่อึดกันแทบทุกตัวอยู่แล้ว มารอบนี้ Note 7 จัดมาให้เต็มเหนี่ยวกับแบตเตอรี่ Li-Po 3,500 mAh รองรับชาร์จไว 3.0 ชาร์จเต็ม 100% ภายในเวลา 100 นาที ซึ่งจากการใช้งานจริง เล่นแบบลากยาวตั้งแต่ 4 ทุ่มครึ่งยันตี 1 เปิดหน้าจอตลอด เทสการถ่ายรูป อัด VDO แสกนม่านตา และ ทดสอบ S Pen ไม่ได้วางเครื่องเลย จาก 100% เหลือ 76% ถือว่าอึดเอาเรื่อง คาดว่าสามารถใช้ทั้งวันได้สบายๆหายห่วง


     ในส่วนของการจัดการความร้อน คิดว่าดีพอๆกับ S7 เลย ถ้าเทียบกับ S6 ตัวนั้นจะรู้สึกว่าแบตค่อนข้างหมดไวไปนิด แถมยังร้อนง่ายอีก อัด VDO นานๆมีโอเวอร์ฮีตให้เห็นอยู่บ่อยๆ

     มายุค S7 และ S7 Edge จึงใส่ฮีดไปท์เข้าไป heatpipe ทำจากท่อทองแดง และใช้ของเหลวในการระบายความร้อน (Liquid Cooling Solution)  จึงทำให้ลดอุณหภูมิตัวเครื่องลงไปได้มากโข ส่วนตัวคิดว่า Note 7 เองก็คงใช้แบบเดียวกัน (เดาเอา)


สรุปจุดเด่นจุดพิจารณา

จุดเด่น

1.ตัวเครื่องจับถนัดมือดีมาก เครื่องเล็กกว่าสมาร์ทโฟน 5.7" ทั่วไปพอสมควร (เผลอๆเล็กกว่า 5.5" บางตัวด้วยซ้ำไป)
2.มีสีเพิ่มขึ้นมาสีนึง ( สี Blue coral สวยม๊ากกก) ตอบโจทย์ผู้ใช้งานกว้างกว่าเดิม
3.หน้าจอเป็นแบบโค้ง 2.5D ที่โค้งจริงๆ ปิดทับด้วยกระจกโค้งอีกที 
4.สามารถใช้งานฟีเจอร์ของตระกุล Edge ได้ (อันนี้ปลื้มแทน)
5.ปากกาพัฒนาขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า มีระบบป้องกันการใส่กลับด้านมาเรียบร้อย
6.กันน้ำมาตรฐาน IP68 สักที! แถมยังใช้ S Pen ในน้ำได้อีก บ๊ะ!
7.USB type C เครื่องแรกของแบรนด์ รองรับมาตรฐานใหม่ในอนาคต ( ตัวท็อปแบรนด์อื่น Type C หมดแล้ว )
8.กล้องหน้าหลัง ถ่ายดีขึ้นกว่าเดิม รอน้านิกจัดเต็มกันอีกทีนึง ส่วนตัวชอบกล้องหน้ามาก
9.มีเซ็นเซอร์แสกนม่านตาที่สามารถใช้งานได้จริง ไวมาก ที่มืดก็ใช้ได้! ลองแล้ว!! ชอบ!!!!
10.แบตอึดตามสไตล์ Galaxy Note รองรับชาร์จไว 3.0 ชาร์จเต็มภายใน 100 นาที


จุดพิจารณา

1.ราคานี่หนาวไปทั้งทรวง ( 28,800บาท)
2.กระจกจอแบบนี้ หาฟิล์มติดยาก อาจต้องพลิกแผ่นดินกันเลยทีเดียว (รอสักพักก็คิดว่าจะมีมาเพิ่ม)
3.กระจกด้านหลังเป็นรอยนิ้วมือง่าย


** อัพเดท // 4/8/2559 แก้ไขข้อผิดพลาด และเพิ่มรูปภาพประกอบ**