.

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ASUS ขนทัพสมาร์ทโฟนและโน้ตบุ๊กสุดล้ำ ชูแนวคิด “Zenvolution” นวัตกรรมอัจฉริยะ ผสานดีไซน์สุดพรีเมี่ยม พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ไทยคนแรก


     นายอิรีค เฉิน ประธานของ ASUS เปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวล่าสุด ASUS ZenFone 3 Series ที่งานแถลงข่าว Zenvolution ในประเทศไทย ในงานนี้มีการเปิดตัว ZenFone 3 Max และ ZenFone 3 Laser  รวมถึงโน้ตบุ๊กรุ่น ASUS ZenBook 3 และพีซีแบบ 2-in-1 รุ่น ASUS Transformer 3 และ ASUS Transformer 3 Pro  งานเริ่มต้นด้วยการแสดงโฮโลกราฟเพื่อแสดงให้เห็นถึงความงามและความสมดุลในแบบ Zen




“ซีรี่ส์ ZenFone 3 เป็นสิ่งทั่วโลกรอคอยหลังจากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกที่งาน Computex ปีนี้” นายอิรีค เฉิน ประธานของ ASUS กล่าว “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้บริโภคในประเทศไทย”

นายปรากาช มัลยา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Intel South East Asia จำกัด ที่ได้เข้าร่วมบนเวทีกับนายอิรีค เฉิน ในส่วนของการเป็นพันธมิตรที่ยาวนานในการพัฒนานวัตกรรมของทั้งสองบริษัท ASUS และ Intel กล่าวว่า เป็นเวลาเกือบสามสิบปี Intel และ Asus ได้ทำงานร่วมกันเพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่ทันสมัยของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ออกสู่ท้องตลาด ในวันนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกัน
ในส่วนของ 
ZenBook 3 และ Transformer 3 ที่ได้ใช้หน่วยประมวลผลของ Intel โดยผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ได้ส่งมอบประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์ ในรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผ่านประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ กับการพกพา และประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอย่างทรงพลัง  และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทำงานร่วมกับเอซุส ในการนำเสนอนวัตกรรมคอมพิวเตอร์ออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น "




นายเจฟฟ์ โล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมีความหลากหลายขึ้น ดังนั้น ในฐานะที่เอซุสเป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์และไอทีระดับโลกจึงได้มุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเอซุสสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
“ครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งที่เอซุสสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการคอมพิวเตอร์และไอที เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวสินค้า ทั้งกลุ่มสมาร์ทโฟน และกลุ่มโน้ตบุ๊กพร้อมกันในหลายรุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Zenvolution” หรือ การสร้างสรรค์นวัตกรรมสุดล้ำ ผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์ดีไซน์เรียบหรู นำสมัย นับเป็นก้าวสำคัญของเอซุสที่มีการนำเสนอสินค้าอย่างครบวงจร เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกสิ่งที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง”



สำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟน ภายใต้ตระกูล “ZenFone 3” แบ่งออกเป็น “ASUS ZenFone 3” สมาร์ทโฟนที่ได้รับรางวัลจาก Computex 2016 และ d&I Award ในด้านการออกแบบที่มีความพรีเมียม ควบคู่กับการมอบประสิทธิภาพสูงสุด 
ทั้งจอแสดงผลขนาด 5.นิ้ว Full HD เลือกใช้พาเนล Super IPS+ คุณภาพสูง 
ให้แสงสว่างสูงสุดถึง 500cd/m2 ทำให้เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อความบันเทิง ไม่ว่าจะใช้แอพพลิเคชั่น วีดีโอ หรือเล่นเกมความละเอียดสูงก็ทำได้เป็นอย่างดี และมีหน่วยความจำแรม 4GB  ให้ประสิทธิภาพการทำงานในระดับคอมพิวเตอร์พีซี ขณะที่กล้องหลังมีความละเอียด16ล้านพิกเซลใช้เทคโนโลยีออโต้โฟกัสASUSTriTech และ ZenFone 3 รุ่น 5.นิ้ว มาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษคือ หูฟัง Marshall เพื่อการสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือกว่า (จำนวนจำกัด)



ASUS ZenFone 3 Ultra” ได้รับรางวัล Best Choice Golden Award จากงาน Computex 2016 เป็นสมาร์ทโฟนที่ขึ้นรูปด้วยอลูมิเนียม ไม่มีเส้นรับสัญญาณด้านหลัง ออกแบบมาสำหรับผู้รักความบันเทิง กับจอแสดงผลขนาด 6.นิ้ว Full HD และเป็นครั้งแรกของโลกที่ใช้ชิปประมวลผลภาพระดับ 4K UHD TV ขณะที่ระบบเสียง ให้ความคมชัดและมีพลังด้วยชิป NXP Smart Amplifier และรองรับระบบเสียงระดับ Hi-Res Audio (HRA) ทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่รองรับการจำลองเสียง 7.ทิศทางผ่านเทคโนโลยี DTS Headphone:ส่วนกล้องถ่ายภาพ ให้ความละเอียดสูงถึง 23 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยเทคโนโลยีโฟกัสภาพ ASUS TriTech และจุใจกับแรมสูงสุด 4GB มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4600 mAh รองรับการชาร์จเร็ว ทั้งยังใช้เป็นแบตเตอรี่สำรองเพื่อชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อื่นได้อีกด้วย  ราคา 24,990 บาท



ASUS ZenFone 3 Deluxe” สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมโครงสร้างวัสดุอลูมิเนียมระดับพรีเมี่ยม ไร้เส้นเสาอากาศภายนอก ทำให้ได้ทั้งความบางเบาและความแข็งแกร่ง ทั้งยังรวบรวมเทคโนโลยีชั้นยอด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาด 5.นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD กล้องถ่ายภาพมีเซ็นเซอร์รับภาพชั้นยอด ให้ความละเอียดสูงสุด 23 ล้านพิกเซล และมีเทคโนโลยีโฟกัส ASUS TriTech ครอบคลุมทั้งเลเซอร์ออโต้โฟกัส ระบบโฟกัส Phase Detection และโฟกัสแบบต่อเนื่อง ส่วนระบบเสียงให้ความคมชัด มีพลังด้วยชิป NXP Smart Amplifier และระบบเสียงระดับ Hi-Res Audio (HRA) ทั้งยังมี เทคโนโลยี Quick Charge 3.ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว นอกจากนี้มีหน่วยความจำแรม 6GB ให้ประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างลื่นไหล ZenFone 3 Deluxe 64GB ราคา 22,990 บาท และ ZenFone 3 Deluxe 256GB ราคา 28,990 บาท


 ZenFone 3 Laser ตัวเครื่องเป็นเมทัลลิก หน้าจอ Full HD ขนาด 5.นิ้ว และมีระบบโฟกัสอัตโนมัติที่เร็วเพียง 0.03 วินาที และมีโหมดแบ็กไลท์ (HDR) ที่ล้ำสมัยเพื่อให้ถ่ายภาพได้สวยยิ่งขึ้น มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ Sony IMX214 พร้อมระบบปรับสีเพื่อให้ภาพดูเป็นธรรมชาติแม้ในที่ที่แสงน้อยหรืออยู่ในที่ร่ม มีระบบป้องกันการเคลื่อนไหว Electronic Image Stabilization (EIS) แบบ 3 แกน (yaw, pitch และ roll) และมีการชดเชยการเคลื่อนไหวเพื่อให้ถ่ายวิดีโอได้นิ่งกว่าเดิมาคา 8,990 บาท

ASUSZenFone3Maxถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้น 
ด้วยแบตเตอรี่ 4100mAh ที่สามารถสแตนด์บายได้ถึง 30 วัน  เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น สามารถใช้โทรศัพท์บน 3G ได้ถึง 20 ชั่วโมง เข้าเว็บด้วย Wi-Fi ได้นานถึง 18 ชั่วโมง  ฟังเพลงได้ 87 ชั่วโมง และเล่นวิดีโอได้นานถึง 15 ชั่วโมง ZenFone 3 Max สามารถใช้เป็นพาวเวอร์แบงก์เพื่อชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย และหน้าจอขนาด 5.นิ้วของ ZenFone 3 Max เป็นแบบ IPS และเคลือบแก้ว พร้อมขอบ 2.5D ที่เรียบสนิทไปกับตัวเครื่องเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ราคา 5,990 บาท


     ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ค “ASUS” ยังคงผนึกกำลังกับ “Intel” พันธมิตรธุรกิจสำคัญที่ร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมอันยอดเยี่ยม อย่างการเปิดตัว รุ่นในปีนี้ ก็ได้เลือกใช้ขุมพลังของโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
ASUS ZenBook 3” ล่าสุดยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ของ ZenBook ที่เน้นเรื่อง “ความบาง เบา แต่ประสิทธิภาพสูง” โดยโฉมใหม่นี้         
ชูจุดเด่นด้วยความเพรียวบางเพียง 11.มิลลิเมตร น้ำหนัก 910 กรัม ใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยเกรดระดับเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศเพื่อเพิ่มความทนทานถึง 50
จอแสดงผลขนาด12.5นิ้วกับIntel®Corei7Processor แรม 16GB ความเร็ว 2133MHz หน่วยความจำ SSD แบบ PCIe® Gen 3 x4 มากสุด 1TB ลำโพงและระบบเสียงจาก Harman Kardon ร่วมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสุด ชั่วโมง ผสานกับลวดลายการออกแบบในแบบฉบับของ ZenBook มีให้เลือก แบบ ได้แก่ สีน้ำเงิน Royal Blue, สีชมพู Rose Gold และสีเงิน Quartz Grey ราคา 69,990 บาท
ASUS Transformer 3” พีซีแบบ 2-in-แข็งแกร่งแต่บางเบาด้วยการใช้อลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักเพียง 695 กรัม และบางเพียงแค่ 6.มิลลิเมตร ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่ากระดาษขนาด A4 จอแสดงผลมีขนาด 12.นิ้ว และสามารถใช้งานคู่กับ ASUS Transformer Sleeve Keyboard ขณะที่ภายในเลือกใช้ 7th Gen Intel® Core™ Processor แรมสูงสุด 8GB และหน่วยความจำ SSD สูงสุด 512GB นอกจากนี้รุ่นนี้รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ 
เช่น ปากกา ASUS Pen, ลำโพง Audio Pod              
โดยมีให้เลือกสองเฉดสี 
ได้แก่ สีทอง Icicle Gold กับสีเงิน Glacier Gray ราคา 40,990 บาท



     “ASUS Transformer 3 Pro” พีซี 2-in-รุ่นแรกและรุ่นเดียวในโลกที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในรูปแบบแท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก เครื่องดนตรี และพีซีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับทั้งการใช้งานในวันทำงาน และเพื่อความบันเทิง ให้ผิวสัมผัสอันยอดเยี่ยมจากอลูมิเนียม         มีความบางเพียง 8.35 มิลลิเมตร พร้อมจอแสดงผล 12.นิ้ว ความละเอียดสูง เพื่อภาพคมชัด และหนึ่งในขุมพลังที่เลือกใช้ก็คือ Intel® Core™ i7 Processor, โดยมีตัวเลือกหน่วยความจำ SSD แบบ PCIe x4 สูงสุดถึง 1TB และแรมความเร็ว 2133MHz ความจุสูงสุด 16GB ส่วนขาตั้งถูกออกแบบด้วยโลหะคุณภาพสูง และผู้ใช้งานสามารถปรับองศาได้ตามที่ต้องการ โดยมีมุมกว้างสุดถึง 170° สามารถทำงานร่วมกับคีย์บอร์ด ASUS Transformer Cover Keyboard และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ เช่นปากกา ASUS Pen, แท่น ASUS Universal Dock สำหรับเป็นฮับเชื่อมต่อ ASUS Transformer 3 Pro 4GB ราคา 42,990 บาท และ ASUS Transformer 3 Pro 16GB ราคา 59,990 บาท
นอกจากนี้ ASUS ยังได้เปิดตัวโน้ตบุ๊ก “ASUS ROG GX800” สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งรุ่นนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊กที่ประสิทธิภาพสูงสุดรุ่นหนึ่งของโลกในปัจจุบัน รวมทั้งทำตลาดคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป “ROG G31 Edition 10” ขนาดกะทัดรัด สานต่อความสำเร็จจาก ROG G20 ปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยลวดลายพิเศษฉลองครบ 10 ปีผลิตภัณฑ์ซีรีย์ ROG



     นอกจากเรื่องของผลิตภัณฑ์แล้ว เอซุสยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารแบรนด์ ซึ่งในปีนี้เป็นปีแรกที่ เอซุส ประเทศไทย ใช้กลยุทธ์การสื่อสารผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่ได้ “ปู – ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก”  มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนไทยคนแรก ด้วยภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในหลากหลายบทบาทหน้าที่ ทั้งการเป็นนักแสดง นางแบบ ตลอดจนกิจกรรมทางสังคม ที่ปัจจุบัน ปู – ไปรยาได้เข้าร่วมกับโครงการเพื่อสังคมหลายโครงการ หนึ่งในนั้นคืองานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในโครงการ Namjai for Refugees ของ UNHCR รวมทั้งยังเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่งในทุกๆ ด้าน



     เอซุสมั่นใจว่าการสื่อสารผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่มีไลฟ์สไตล์สอดคล้องกับแบรนด์เอซุสจะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เด่นชัดขึ้น และสร้างการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ดียิ่งขึ้น
“เราเชื่อมั่นว่าการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน และโน้ตบุ๊กอย่างครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Zenvolution” ที่โดดเด่นทั้งในด้านนวัตกรรมสุดล้ำ และด้านดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย พร้อมกับการสื่อสารผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ในครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์เอซุสให้มีความพรีเมี่ยมขึ้น และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของผู้บริโภคสะดวกและง่ายขึ้นในทุกๆ วัน” นายเจฟฟ์ โล กล่าวในตอนท้าย